สร้างบ้านเอง กับ ซื้อบ้านจัดสรร หนึ่งในคำถามยอดฮิต สำหรับผู้ที่กำลังมองหาบ้านใหม่ ที่ทำเอาหลายคนตัดสินใจไม่ถูกว่าตัวเลือกไหนจะคุ้มค่า และเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
ในบทความนี้จะมาช่วยไขข้อข้องใจ ค้นหาคำตอบให้คุณว่าการลงทุนแบบไหนจะเหมาะสม และคุ้มค่ากับความต้องการของคุณเองมากที่สุด โดยทั้งสองทางเลือกไม่ว่าจะเป็น ‘การซื้อบ้านโครงการหมู่บ้านจัดสรร’ หรือ ‘การซื้อที่ดินปลูกบ้านเอง’ ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป โดยเราจะยกมาเปรียบเทียบในแต่ละด้าน ให้คุณได้นำไปพิจารณากัน ถ้าอย่างนั้นมาเช็กข้อดี – ข้อเสียก่อนตัดสินใจกันเถอะ
โปรโมชั่นบ้านดี ๆ เดี๋ยวนี้ก็มีให้เลือกมากมาย เลยอาจทำให้หลายคนลังเลว่าจะเอาเงินที่เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิต ไปซื้อบ้านจัดสรรที่มีทุกอย่างพร้อมหรือสร้างบ้านตามที่ตัวเองอยากได้ดี หากยังเลือกไม่ได้ก็อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจ ลองดูข้อดี – ข้อเสียระหว่างการซื้อบ้านจัดสรรกับการสร้างบ้านด้วยตัวเองก่อน เผื่อยังมีบางเรื่องที่คุณอาจคิดไม่ถึง จะได้ทบทวนรายละเอียดต่าง ๆ ให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ
ข้อดีข้อเสียของการ สร้างบ้านเอง กับ ซื้อบ้านจัดสรร ของโครงการหมู่บ้าน
เพราะใคร ๆ ก็อยากได้บ้านที่สวยที่สุด ถูกใจที่สุด และคุ้มค่าที่สุด และแต่ละคนก็มีนิยามคำว่า “บ้านที่ดี” ไม่เหมือนกัน บ้างก็ชอบบ้านที่มีพื้นที่เยอะ ๆ บ้างก็ชอบบ้านที่มีสวนกว้าง หรือบ้างก็ชอบบ้านที่มีห้องเยอะ ๆ ไว้เก็บของ หลายคนที่กำลังซื้อบ้านคงมีคำถามเกิดขึ้นในใจว่าจะซื้อบ้านโครงการจัดสรรหรือซื้อที่ดินมาสร้างบ้านเองดี ? ถ้าทั้ง 2 แบบนี้ใช้ต้นทุนในราคาที่พอ ๆ กันและทั้ง 2 แบบก็มีข้อดีข้อเสียที่ต่างกันออกไป ก็ขอแยกข้อดี – ข้อเสียของบ้านที่ซื้อใหม่และบ้านสร้างเองไว้ดังนี้
a. ซื้อที่ดินปลูกบ้านเอง
ข้อดีของการซื้อที่ดินปลูกบ้านเอง
ข้อดีของการซื้อที่ดินปลูกบ้านเอง มี 7 ข้อ ดังนี้
1. เลือกบริษัทออกแบบบ้านได้ตามต้องการและสามารถควบคุมงบประมาณได้
ข้อนี้ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญของบ้านสั่งสร้างเลยล่ะ เพราะคุณจะสามารถกำหนดงบประมาณเองได้ โดยเอาแบบแปลนบ้านที่ใช่ให้บริษัทออกแบบรับเหมาก่อสร้างประเมิน ซึ่งถ้าหากผู้รับเหมาตีราคาสูงเกินงบไป ก็สามารถต่อรองหรือปรับเปลี่ยนแก้แบบ หรือเลือกใช้วัสดุในงบประมาณที่พอดีได้
2. ได้บ้านตรงตามอุดมคติ ออกแบบได้ในสไตล์ที่ถูกใจ
การสร้างบ้านเองช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีความผูกพันกับบ้านและเพิ่มความภูมิใจเมื่อเป็นเจ้าของมากขึ้น เนื่องจากได้มีส่วนร่วมด้วยตนเองตั้งแต่การออกแบบบ้านในฝันออกมาเป็นรูปเป็นร่างเพื่อให้สถาปนิกเขียนแบบแปลน การเลือกออกแบบในสไตล์ที่ชอบ การคัดสรรวัสดุที่ใช้ รวมไปถึงเลือกผู้รับเหมาด้วยตัวเอง
สามารถวางแผนตกแต่งในสไตล์ที่ชอบได้ตั้งแต่แรก ซึ่งจะลดปัญหาค่าใช้จ่ายในการรีโนเวทที่ตามมาในภายหลังได้ นอกจากผู้บริโภคที่สนใจสร้างบ้านเองจะได้บ้านใหม่ตรงตามที่วาดฝันและแน่นอนว่าบ้านนี้จะตอบโจทย์การอยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของสมาชิกในครอบครัวได้ครบถ้วนที่สุด
หากคุณอยากมีบ้านทรงเก๋ๆไม่ซ้ำใคร มีสวนรอบบ้านกว้างๆ มีพื้นที่ส่วนตัวตามมุมต่างๆในบ้าน การสร้างบ้านเองน่าจะตอบโจทย์ได้มากกว่า
3. ไม่ต้องเสียค่าส่วนกลาง
ค่าส่วนกลางของโครงการที่ต้องจ่ายทุกปี อาจจะทำให้คนที่คิดจะซื้อบ้านจัดสรรยอมถอยทัพ การปลูกบ้านเองไม่ต้องเสียค่าดูแลในส่วนนี้ ซึ่งบางครั้งเราอาจจะไม่ค่อยได้ใช้หรือใช้ไม่คุ้มค่า เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสาธารณะ ลานออกกำลังกาย คนดูแลสวนหมู่บ้าน คนกวาดถนน หรือ ยามจำนวนที่มากแต่ไม่ได้ประสิทธิภาพ
และที่สำคัญ จ่ายเงินเดือนพนักงานนิติบุคคลโดยบางทีก็บริหารงานได้ไม่ดีและเปลี่ยนแปลงยากเนื่องจากต้องอาศัยคะแนนของลูกบ้านซึ่งโดยมากมักขาดประชุมประจำปี เลยต้องเลยตามเลย แต่ก็ต้องจัดการรอบบ้านด้วยตัวเอง เช่น กล้องวงจรปิด หรือ ระบบรักษาความปลอดภัยต่างๆ เช่น ทำเหล็กดัด ติดสัญญาณกันขโมย
4. ได้บ้านในทำเลที่โดนใจ ท่ามกลางเพื่อนบ้านที่รู้ใจ
ทำเลที่ตั้งของที่อยู่อาศัยมีผลต่อการตัดสินใจซื้อไม่น้อย แม้หลายโครงการบ้านจัดสรรจะมีระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันแต่หากอยู่ในทำเลที่ไม่ดี เดินทางไม่สะดวกก็ถือว่าไม่ตอบโจทย์มากพอ เมื่อเมืองหลวงและหัวเมืองใหญ่มีการพัฒนาความเจริญในหลายด้านย่อมทำให้ทำเลทองบางแห่งมีราคาสูงตามไปด้วย หรือทำเลที่ดีบางแห่งอาจมีขนาดพื้นที่ไม่เพียงพอที่จะพัฒนาเป็นโครงการอสังหาฯ ขนาดใหญ่
ดังนั้นการที่ผู้บริโภคเลือกที่จะซื้อที่ดินในทำเลที่ดีและเป็นมงคลตามความเชื่อมาเก็บไว้ก่อนที่จะดำเนินการปลูกสร้างที่อยู่อาศัยในอนาคตจึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากที่ดินจะมีมูลค่าเพิ่มเรื่อย ๆ แม้จะเก็บไว้เป็นเวลานาน นอกจากนี้การสร้างบ้านในที่ดินตนเองทำให้รู้ว่าเพื่อนบ้านของเราเป็นใครบ้าง มีอุปนิสัยหรือประกอบอาชีพอะไร เพื่อประเมินสถานการณ์เบื้องต้นที่อาจเกิดขึ้นเมื่อย้ายเข้ามาอยู่อาศัย
หรือหากใครมีที่ดินเปล่าในบริเวณใกล้เคียงกับบ้านญาติพี่น้องก็ถือเป็นข้อดี เพราะเมื่อก่อสร้างบ้านในที่ดินนั้นก็จะยิ่งเพิ่มความสบายใจและอุ่นใจ เมื่อได้อาศัยท่ามกลางเพื่อนบ้านที่คุ้นเคยกัน
5. ควบคุมคุณภาพบ้าน อัพเกรดความปลอดภัยได้ตามใจสั่ง
การเลือกสร้างบ้านเองนั้นผู้บริโภคจะสามารถเลือกวัสดุที่ใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้บ้านได้ด้วยตนเองได้ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่งานโครงสร้างจนถึงงานสถาปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้วัสดุที่มีค่าการต้านทานความร้อนสูง มีคุณสมบัติทนไฟ หรือเสริมระบบป้องกันปลวก เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมาหรือเหตุไม่คาดฝันในอนาคต
แม้แต่บ้านที่อยู่ในทำเลที่มีความเสี่ยงในการเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ ก็สามารถเลือกใช้การก่อสร้างแบบใหม่ที่ช่วยให้บ้านแข็งแรงยิ่งขึ้นและทนต่อการเกิดแผ่นดินไหวได้อีกด้วย นอกจากนี้ผู้อยู่อาศัยยังเลือกใช้เทคโนโลยีมาช่วยวางระบบความปลอดภัยในบ้านผ่านการติดตั้งกล้องวงจรปิด ระบบดักจับควัน ระบบดักจับการเคลื่อนไหวในบ้านเพิ่มเติมได้
แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นตามระดับความปลอดภัยที่ได้รับเพิ่ม แต่จะช่วยให้เจ้าของบ้านอุ่นใจว่าได้เสริมเกราะป้องกันให้บ้านปลอดภัยและสามารถรับมือกับภัยธรรมชาติและการโจรกรรมที่ไม่คาดคิดได้ดีขึ้นอีกระดับ
จะเป็นวัสดุเกรดไหน ลักษณะแบบใดทั้งหมดนี้คุณสามารถเลือกได้ด้วยตัวเอง บางคนอาจจะไปหาวัสดุนำเข้าลวดลายสีสันแปลกตามาตกแต่ง ก็ทำให้ไม่เหมือนใครเช่นกัน
6. มีระยะเวลาผ่อนนาน
การสั่งสร้างนั้นมีระยะเวลาผ่อนนานกว่าบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว ซึ่งสามารถผ่อนชำระเป็นงวดๆ ทำให้ทุกคนมีโอกาสเป็นเจ้าของบ้านกันง่ายขึ้น
7. มีความเป็นส่วนตัว
ถ้าบ้านมีพื้นที่รอบตัวบ้าน มีรั้วรอบขอบชิด และอยู่พื้นที่ที่มีบ้านมาปลูกติดกันไม่หนาแน่น ทำให้เรามีความเป็นส่วนตัวมาก ไม่ต้องพบเจอคนที่เราไม่ต้องการคบหาสมาคมด้วย
อ่านเพิ่มเติม หลักการเลือก ที่ดินสร้างบ้าน
จากครอบครัวช่างผู้รับเหมาก่อสร้าง ใช้วัสดุคุณภาพสูง งบไม่บานปลาย เสร็จตามเวลา ช่างไม่ทิ้งงาน วางใจถึงหลังส่งมอบ มีประกันงาน บริการสร้างบ้าน รับออกแบบบ้านสวยๆ ทุกสไตล์ บ้านชั้นเดียว บ้านสองชั้น ขนาดเล็กและใหญ่ ราคาเหมาะสม ตามงบประมาณ กับ TAMPBUILDER(แทมป์บิวเดอร์) บริษัทรับสร้างบ้าน
ข้อเสียของการซื้อที่ดินปลูกบ้านเอง
ข้อเสียของการซื้อที่ดินปลูกบ้านเอง มี 9 ข้อ ดังนี้
1. เสี่ยงดวงกับผู้รับเหมา ต้องมีความรู้เรื่องก่อสร้าง การจ้างผู้รับเหมาถือเป็นความท้าทายอันดับต้น ๆ ของคนสร้างบ้าน
เพราะไม่มีอะไรมาการันตีได้ว่างานที่ได้จะออกมามีคุณภาพตามที่คิดหรือไม่ เนื่องจากการอ่านรีวิวสร้างบ้านตามสื่อต่าง ๆ อาจไม่สามารถนำมาวัดผลหน้างานจริงได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือเมื่อเกิดปัญหาจุกจิกระหว่างการก่อสร้าง เจ้าของบ้านจะเรียกร้องให้ช่างแก้ไขได้มากน้อยเพียงใด
หากเจ้าของบ้านไม่มีความรู้เลยก็อาจเสียเปรียบหรือโดนหลอกโกงสเปกวัสดุได้ง่าย ๆ งานที่ได้อาจไม่มีคุณภาพมากเพียงพอเท่าราคาที่เสียไป ดังนั้นผู้บริโภคจึงควรหมั่นศึกษาหาความรู้พื้นฐานเรื่องการก่อสร้างอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นแนวทางในตรวจเช็กเอกสาร สเปกวัสดุ ตรวจสอบค่าใช้จ่ายในเอกสารแสดงรายการวัสดุและค่าใช้จ่าย (Bill of Quantities หรือ BOQ)
เพื่อป้องกันการเสียรู้ให้ผู้รับเหมาในเบื้องต้น และต้องตกลงรายละเอียดงานและสัญญาว่าจ้างให้ชัดเจนเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดในภายหลัง หรือ เลือกใช้บริษัทรับสร้างบ้านที่น่าเชื่อถือ มีคุณภาพ และประสบการณ์มายาวนาน เช่น TAMPBUILDER(แทมป์บิวเดอร์) เป็นต้น
เยี่ยมชมหน้าบริษัทรับสร้างบ้าน TAMPBUILDER กด >> บริษัทรับสร้างบ้าน
2. ปัญหาการทิ้งงานหรือล่าช้า
คงปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่าปัญหาทิ้งงานหรืองานล่าช้านั้นเกิดขึ้นเยอะมากในวงการสร้างบ้าน ดังนั้นถ้าคุณเลือกบ้านสั่งสร้างก็ควรทำการบ้านหาข้อมูลดีๆ อาทิ ผลงานที่ผ่านมา ชื่อเสียงและการตอบรับจากลูกค้า รายละเอียดสัญญา รวมไปจนถึงข้อตกลงของบริษัทนั้นๆ เป็นต้น แต่ปัญหานี้จะหมดไป เมื่อท่านมาใช้บริการกับ บริษัทรับสร้างบ้านที่น่าเชื่อถือ มีคุณภาพ และประสบการณ์มายาวนาน เช่น TAMPBUILDER(แทมป์บิวเดอร์)
3. หาข้อมูลและทำเอกสารเยอะ
การก่อสร้างบ้านสักหลัก ต้องยื่นยื่นคำร้องขออนุญาตก่อสร้างบ้านที่สำนักงานเขตท้องถิ่นในพื้นที่นั้นๆ ด้วย นอกจากนี้ยังมีเรื่องการกู้เงินเพื่อสร้างบ้านกับธนาคารต่างๆ ที่คงปวดหัวไม่น้อย และที่สำคัญคือการหาข้อมูล เรื่องวัสดุก่อสร้างเพื่อความปลอดภัยของบ้านหลังนี้ด้วย ควรมีข้อมูลความรู้ในส่วนนี้เพื่อจะได้เช็คสเป็ก ของวัสดุว่าตรงตามที่กำหนดไว้หรือไม่ โดยทางปัญหาข้อนี้ ทาง TAMPBUILDER(แทมป์บิวเดอร์) รับจัดการด้านเอกสารและดำเนินการต่างๆให้ครบ จบในที่เดียว
4. ต้องตามงานเป็นระยะ
เพราะต้องคอยควบคุมงานก่อสร้างอยู่เป็นระยะ ๆ เพื่อให้มั่นใจว่ารูปแบบเป็นไปตามที่วางไว้จริง ๆ คุณจึงต้องมีเวลามาคอยดูงานอยู่เรื่อย ๆ อีกทั้งการสร้างบ้านเองควรจะมีความรู้หรือมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล เพื่อให้การก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐาน
แต่ปัญหานี้จะหมดไป เพราะ TAMPBUILDER(แทมป์บิวเดอร์) มีระบบประสานงานกับลูกค้า คอยติดตามความคืบหน้ากับท่านเป็นระยะ พร้อมตอบข้อสงสัยให้ท่านแบบทันที ตลอดเวลาที่ท่านต้องการ
5. สภาพแวดล้อมไม่ได้มาพร้อมเหมือนโครงการ
แม้ว่าคุณจะสร้างบ้านเองแต่ไม่ได้หมายความว่า คุณจะสร้างส่วนกลางที่พร้อมทั้งฟิตเนสและสระว่ายน้ำขึ้นมาด้วย เพราะการสร้างบ้านเองจะไม่มีส่วนกลางที่พร้อมทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส หรือห้องซาวน่า รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยอย่าง รปภ. และกล้องวงจรปิดด้วย อีกทั้งคนเก็บขยะ คนสวน เป็นต้น
6. เสี่ยงงบบานปลาย ต้องวางแผนการเงินอย่างดี
การเลือกสร้างบ้านเองนั้นแม้จะได้บ้านที่ถูกใจมากกว่า แต่แน่นอนว่าย่อมแลกกับการที่ต้องมีค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นทั้งในส่วนค่าที่ดิน ค่าออกแบบแปลน ค่าสถาปนิก ค่าวัสดุก่อสร้าง ค่าแรงผู้รับเหมา รวมถึงค่าตกแต่งเพื่อความสวยงาม
หากผู้บริโภคไม่มีประสบการณ์ในการรับมือปัญหาเหล่านี้ หรือไม่มีการวางแผนทางการเงินที่รัดกุมเพียงพออาจนำไปสู่ปัญหางบบานปลาย คุมค่าใช้จ่ายไม่อยู่ เนื่องจากค่าวัสดุอุปกรณ์มีการปรับเปลี่ยนตามเกรดและอาจมีการเบิกค่าใช้จ่ายที่ผู้รับเหมาไม่ได้แจ้งล่วงหน้า
หากไม่กำหนดเพดานค่าใช้จ่ายที่ชัดเจนหรือสำรองเงินไว้เพียงพอ อาจเกิดปัญหาในภายหลังได้ ดังนั้น การเลือกทำบัญชีรายรับ – รายจ่ายเพื่อบันทึกค่าใช้จ่ายทั้งหมดตั้งแต่วางแผนมีบ้านจนเริ่มก่อสร้าง และอัพเดทงบประมาณที่ตั้งไว้ตลอดเพื่อประมาณการค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างได้ดีขึ้น
อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าการสร้างบ้านหรือแค่ซ่อมแซมบ้านเป็นปัญหาขนาดไหน โดยเฉพาะเรื่องควบคุมต้นทุนไม่ให้งบบานปลายยิ่งทำได้ยากมาก บางครั้งเกิดจากการประมาณการผิด หรือซื้อของจนไม่ได้คุมต้นทุนตัวเอง ทำให้เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเรื่อย ๆ
หรือจะเลือกใช้บริการ กับ บริษัทรับสร้างบ้านที่น่าเชื่อถือ มีคุณภาพ และประสบการณ์มายาวนาน เช่น TAMPBUILDER(แทมป์บิวเดอร์)
7. ไม่สามารถเข้าอยู่ได้ทันที
อย่างที่ทราบกันดีว่าบ้านสั่งสร้างต้องใช้เวลาในการดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งก็จะดำเนินไปตามขั้นตอนและระยะเวลาในการจ้างที่ตกลงกับผู้รับเหมา ดังนั้นใครที่คิดเลือกบ้านสั่งสร้างก็ต้องใจเย็นๆ นะจ๊ะ
8. ข้อเสียในการกู้ธนาคาร ถ้าสร้างบ้านเอง
ธนาคารไม่ชอบการกู้สร้างบ้าน เพราะ มองว่ามีความเสี่ยงสูง ดั้งนั้น
a. กู้ยาก เครดิตไม่ดีจริงๆ เหนื่อยเเน่
b. ต้องมีที่ดินก่อน ถึงจะกู้ได้
c. ถึงใช้ที่ดินในการค้ำประกันเงินกู้ เเต่เวลาสร้างเสร็จ บ้านจะกลายเป็นทรัพย์สินบนดิน ติดภาระไปด้วย
d. วงเงินต่ำ และ ดอกเบี้ยสูง (อาจจะได้ดอกเบี้ยระดับ ธุรกิจ)
e. ทำราคาประเมินลำบาก เพราะไม่มีการเปรียบเทียบ เเละ ส่วนใหญ่ประเมินได้ต่ำกว่าความเป็นจริง
9. ขายต่อค่อนข้างยาก และราคาตก
เพราะการออกเเบบ ทำมาเฉพาะเจาะจง ไม่มาตรฐาน ถ้าอินดี้มาก ราคาอาจจะตกฮวบ
ได้บ้านในฝันตามงบประมาณ ราคายุติธรรม ช่างผู้รับเหมาไม่ทิ้งงาน
กด >> รับสร้างบ้าน
b. ซื้อบ้านของโครงการหมู่บ้านจัดสรร
ข้อดีของการซื้อบ้านของโครงการหมู่บ้านจัดสรร
ข้อดีของการซื้อบ้านของโครงการหมู่บ้านจัดสรร มี 6 ข้อ ดังนี้
1. ได้บ้านใหม่พร้อมเข้าอยู่ ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ง่ายกว่า
การเลือกซื้อบ้านในโครงการใหม่จะมีราคาที่แน่นอน ซึ่งเป็นราคาที่ทางโครงการได้คำนวณค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นค่าที่ดิน ค่าก่อสร้าง ค่าบริหารจัดการต่าง ๆ รวมทั้งค่าใช้จ่ายด้านการขายและการตลาด ดังนั้นบ้านจัดสรรจึงค่อนข้างมีราคาที่ชัดเจนพอสมควร ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถวางแผนงบประมาณเพิ่มเติมในส่วนการตกแต่งภายในหรือค่าเฟอร์นิเจอร์ได้ง่ายขึ้น ต่างจากการสร้างบ้านเองที่ต้องมีการวางแผนค่าใช้จ่ายตั้งแต่ขั้นตอนการจ้างสถาปนิกเขียนแบบ จนกระทั่งการเลือกผู้รับเหมา
2. ตัดความยุ่งยากของขั้นตอนการสร้างบ้าน
การสร้างบ้านเอง ย่อมต้องการความใส่ใจจากผู้สร้างมากกว่า เพราะนอกจากการออกแบบบ้านแล้ว ยังต้องมีการดำเนินการเรื่องยื่นแบบขอปลูกสร้าง และที่สำคัญ เราต้องมีเวลามาตรวจงานเป็นประจำในระหว่างการก่อสร้าง เพื่อตรวจสอบคุณภาพของงาน และความคืบหน้า
ดังนั้นการสร้างบ้านเองจำเป็นที่จะต้องมีความรู้ หรือมีเพื่อนที่ไว้ใจได้และมีความรู้มาช่วยดูแล ดังนั้น ผู้รับเหมาที่ดีจึงเป็นเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ส่วนบ้านโครงการ เราสามารถตัดปัญหานี้ไปได้เลย เพราะโครงการเป็นผู้ดูแลการก่อสร้างทั้งหมด เราเพียงไปตรวจรับบ้านตอนทำสัญญา และนอกจากนี้ ในบางโครงการยังมีประกันหลังการขาย สำหรับโครงสร้างบ้าน หรือระบบน้ำ ระบบไฟอีกด้วย
เจ้าของบ้านไม่ต้องเหนื่อยมาลงแรงเองในขั้นตอนการก่อสร้างหรือคุมงาน ปล่อยให้เป็นความรับผิดชอบของผู้พัฒนาอสังหาฯ ได้โดยตรง
3. พื้นที่ส่วนกลางตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ อุ่นใจด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
พื้นที่ส่วนกลางของหมู่บ้านจัดสรรส่วนใหญ่ได้รับการออกแบบให้รองรับการทำกิจกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยทุก Generation ทั้งในด้านการพบปะสังสรรค์หรือเป็นพื้นที่สร้างสรรค์สุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นโซนพักผ่อนหย่อนใจในสวนสาธารณะเน้นใกล้ชิดธรรมชาติที่นอกจากจะได้ความร่มรื่นจากต้นไม้แล้วยังช่วยกรองมลพิษอีกด้วย หรือการมีห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำ และพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้งเพื่อสร้างสุขภาพที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ โครงการหมู่บ้านจัดสรรยังมีระบบดูแลรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ที่คอยตรวจตราความสงบเรียบร้อย คัดกรองและบันทึกข้อมูลการเข้า – ออกของบุคคลภายนอก และมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดทั่วบริเวณโครงการ ซึ่งช่วยให้ลูกบ้านมีความมั่นใจเมื่ออยู่อาศัยหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ในหมู่บ้านมากขึ้น
4. เพื่อนบ้านที่อยู่ในระดับเดียวกัน
เพราะโครงการจัดสรรมักจะคัดกรองผู้อยู่อาศัยด้วยระดับราคาอยู่แล้ว เช่น โครงการ 10 – 15 ล้านบาท ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้ที่มีรายได้ปานกลาง – สูง จึงทำให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่าจะได้มีสังคมและเพื่อนบ้านที่ดี
5. ภูมิทัศน์ที่แน่นอน
โครงการบ้านขนาดใหญ่ ได้มีการจัดวางผังโครงการไว้อย่างเป็นระเบียบ สวยงาม ทำให้ผู้อยู่อาศัย หันไปทางไหนก็จะมองเห็นความเป็นระเบียบ ลักษณะบ้านที่ออกแบบเหมือนกัน คล้ายกัน แน่นอนว่าภายในพื้นที่โครงการ จะไม่มีโครงการหรือโรงงานอะไรมาก่อสร้างในอนาคตแน่นอน
จะแตกต่างจากการสร้างบ้าน เลือกที่ดินเอง เพราะในอนาคตต อาจมีโรงงานใหญ่มาอยู่ใกล้บ้าน อาจมีผับ สถานบันเทิงเริงรมณ์สร้างเสียงดังรบกวน อีกทั้งการสร้างไม่มีระเบียบ ใครอยากจะสร้างแบบไหน ก็สร้างกันได้ มองแล้วก็จะไม่สวยงาม
6. ยื่นขอสินเชื่อได้ง่ายกว่า มาพร้อมโปรฯ ดึงดูดใจ
การยื่นขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านในโครงการใหม่มักมีข้อเสนอที่ดึงดูดความสนใจมากกว่า เนื่องจากผู้พัฒนาอสังหาฯ มักจะมีการจับมือกับพันธมิตรที่เป็นธนาคารและสถาบันการเงินต่าง ๆ ในการจัดทำโปรโมชั่น/แคมเปญการตลาดมานำเสนออย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นยอดขายและดึงดูดกำลังซื้อของผู้บริโภคให้กลับมา จึงทำให้การซื้อบ้านใหม่ในโครงการต่าง ๆ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจยิ่งขึ้นในช่วงนี้ มีความสะดวกสบายในขั้นตอนการดำเนินธุรกรรมและยื่นเอกสารขอสินเชื่อต่าง ๆ ซึ่งมีโอกาสกู้ได้วงเงินที่สูงกว่าด้วย
บริการเสริม บริษัทรับเหมาก่อสร้าง TAMPBUILDER
บริษัทรับเหมาก่อสร้างของเราทำแบบครบวงจร ONE STOP SERVICE
- บริการรับสร้างบ้านหรู (สนใจ กด >> รับสร้างบ้านหรู luxury โมเดิร์น)
- บริการรับออกแบบบ้าน เขียนแบบบ้านยื่นขออนุญาต (สนใจ กด >> รับออกแบบบ้าน รับเขียนแบบบ้าน)
- บริการหาผู้รับเหมา หาช่างรับเหมา (สนใจ กด >> หาผู้รับเหมา หาช่างรับเหมา)
- บริการรับทำBOQ รับถอดแบบและประมาณราคา (สนใจ กด >> รับทำBOQ รับถอดแบบและประมาณราคา)
ข้อเสียของการซื้อบ้านโครงการหมู่บ้านจัดสรร
ข้อเสียของการซื้อบ้านโครงการหมู่บ้านจัดสรร มี 7 ข้อ ดังนี้
1. ปรับเปลี่ยนแบบไม่ได้รวมถึงแบบบ้านมีให้เลือกน้อย
การซื้อบ้านจากโครงการมักจะเป็นบ้านที่มีการออกแบบเอาไว้แล้วทั้งรูปแบบและวัสดุ ผู้ซื้อไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ นอกจากจะไปตกแต่งเพิ่มในภายหลังเอาเอง แต่ก็จะมีบางโครงการที่สามารถปรับเปลี่ยนวัสดุได้บ้างเล็กน้อยในระหว่างการก่อสร้าง แต่ทั้งนี้ก็อาจจะทำให้การก่อสร้างเกิดความล่าช้าออกไป
2. ปัญหาจากผู้ประกอบการ
เป็นปัญหาที่มีกันมายาวนาน จะเห็นได้จากข่าวการฟ้องร้องที่เกิดขึ้นไม่เว้นวัน ซึ่งปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุดคือปัญหาการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะผู้ซื้อเองก็ไม่ได้เห็นทุกขั้นตอนในการก่อสร้างและเวลาซื้อตอนที่ยังใหม่ ๆ ทำให้ยังไม่เห็นสภาพโครงสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นการซื้อบ้านจัดสรรจะต้องเลือกซื้อกับผู้ประกอบการที่น่าเชื่อถือพอ
3. ขยับขยายพื้นที่ลำบากมีข้อจำกัดในเรื่องของการต่อเติม
บ้านจัดสรรในโครงการต่าง ๆ มักจะมีการออกแบบแปลนบ้านมาตรฐานไว้อยู่แล้ว และในโครงการหนึ่งมักจะมีเพียงไม่กี่รูปแบบให้เลือก แน่นอนว่าย่อมไม่สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยของทุกครอบครัวได้อย่างครบถ้วน เพราะไม่ได้ออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้งานจริงของครอบครัวนั้น ๆ โดยเฉพาะ
นอกจากนี้เมื่อมีแผนขยายครอบครัวในอนาคตหากคิดจะขยับขยายหรือต่อเติมพื้นที่ใช้สอยเพิ่มก็เป็นเรื่องที่ลำบากและต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพราะที่ดินมีพื้นที่จำกัดและการต่อเติมต้องคำนึงถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ให้ละเมิดสิทธิของเพื่อนบ้าน รวมทั้งต้องตรวจสอบข้อตกลงและข้อกำหนดของโครงการบ้านจัดสรรที่ได้บัญญัติไว้อีกด้วย เช่น ห้ามตกแต่ง ต่อเติม ขยายรั้วนอกที่ดิน หรือทาสีฉูดฉาด รวมถึงให้ทำภายในระยะเวลาที่กำหนด
4. ไม่สามารถควบคุมเรื่องคุณภาพวัสดุ
แน่นอนว่าบ้านโครงการส่วนใหญ่มักดำเนินการสร้างไว้พร้อมอยู่แล้วและรอเพียงการตัดสินใจซื้อของคุณเท่านั้น ดังนั้นคุณภาพของวัสดุจึงต้องเป็นไปตามการเลือกใช้ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ ซึ่งบางทีอาจไม่ตรงตามความต้องการของคุณ ข้อแนะนำคือศึกษาข้อมูลให้ดีและพิจารณาจากการสำรวจบ้านตัวอย่างที่สร้างเสร็จแล้ว
5. ต้องจ่ายอย่างต่อเนื่องในเรื่องพื้นที่ส่วนกลาง
บ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมในโครงการบ้านจัดสรรนั้น ทำให้ต้องเสียค่าส่วนกลางอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งบางที Facilities ต่างๆ ที่ได้ในโครงการ อาจไม่จำเป็นกับคุณเลยก็เป็นได้ ทั้งห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ ฯลฯ ซึ่งการเสียเงินส่วนนี้ทุกปี อาจเป็นเรื่องทำใจได้ยากกว่าที่คิด อาจมีบางโครงการเมื่อเวลาผ่านไป อาจดูแลได้ไม่ดีนัก
ตรงส่วนนี้ผู้ซื้อ จึงจำเป็นต้องศึกษาประวัติผลงาน ของแต่ละโครงการให้ดี ๆ เพราะหากบริการหลังการขายแย่แล้ว ผู้ซื้อจำเป็นต้องทนอยู่ไปอีกนาน
6. ราคาสูง
ถ้าเราเปรียบเทียบจากทำเล และขนาดของตัวบ้าน โดยส่วนใหญ่แล้วบ้านโครงการจะมีราคาสูงกว่าบ้านสร้างเอง เพราะบ้านโครงการนั้นมีการดูแลหลายภาคส่วน มีการจ้างพนักงานจำนวนมาก รวมถึงต้นทุนในการตลาดอีกด้วย อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีพื้นที่ใช้สอยเยอะ แต่ต้องการประหยัดงบ ไม่เพียงเท่านี้ โครงการบ้านทำเลดี ๆ ผู้อาศัยจริง มักไม่ได้เป็นผู้ซื้อรายแรก เพราะส่วนใหญ่แล้วมักผ่านการจับจองจากนักลงทุน เพื่อขายเก็งกำไร จะทำให้ผู้อยู่อาศัยจริง ซื้อบ้านในราคาที่สูงขึ้น
7. วัดดวงกับนิติบุคคล และเพื่อนบ้านในอนาคต
โครงการบ้านจัดสรรจะมีนิติบุคคลเป็นตัวแทนหมู่บ้านคอยจัดประชุมตามวาระต่าง ๆ รักษาความสงบเรียบร้อยในการใช้งานทรัพย์สินส่วนกลาง และควบคุมการบังคับใช้กฎระเบียบของสมาชิกในหมู่บ้านเพื่อสร้างสังคมที่อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข จึงถือว่ามีบทบาทสำคัญและส่งผลต่อการอยู่อาศัยไม่น้อย
หากเป็นโครงการอสังหาฯ จากผู้ประกอบการรายกลางหรือรายเล็กอาจมีการคัดเลือกทีมนิติบุคคลจากผู้อยู่อาศัยขึ้นมาเป็นตัวแทนในการดูแลบริหารจัดการเรื่องต่าง ๆ แทนลูกบ้าน ซึ่งอาจจะไม่มีประสบการณ์บริการจัดการปัญหาอย่างเป็นระบบได้เทียบเท่าบริษัทรับบริหารนิติบุคคลมืออาชีพแน่นอน
นอกจากนี้ การเลือกซื้อบ้านใหม่ในโครงการบ้านจัดสรรจะไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเพื่อนบ้านที่ย้ายเข้ามาใหม่จะมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างไร หากต้องเผชิญปัญหากระทบกระทั่งระหว่างเพื่อนบ้านที่ไม่สามารถตกลงกันได้ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวไม่น้อย ถ้านิติบุคคลไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการปัญหาให้จบด้วยดีได้ ก็เป็นอีกความท้าทายที่หลายคนไม่อยากเผชิญแน่นอน
อ่านเพิ่มเติม ต่อเติมข้างบ้าน รู้ข้อกำหนดตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522
เพิ่มเติมปัจจัยในการเลือกซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัย
1. ปัจจัยภายใน
ผู้บริโภคชาวไทยให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัยโดยพิจารณาจากขนาดที่อยู่อาศัยเป็นหลัก 48% ตามมาด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก 44% และความคุ้มค่าในการใช้จ่ายโดยพิจารณาจากราคาเฉลี่ยต่อพื้นที่ใช้สอย 38%
2. ปัจจัยภายนอก
ในขณะที่ปัจจัยภายนอกโครงการที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัยนั้นให้ความสำคัญในเรื่องทำเลที่ตั้งมากถึง 54% รองลงมาคือความสะดวกสบายจากการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ 50% และความปลอดภัยในโครงการ 45%
สถาปนิกมืออาชีพออกแบบบ้านตามสไตล์คุณ วิศวกรเซ็นต์เพื่อยื่นขออนุญาต
กด >> รับออกแบบบ้าน รับเขียนแบบบ้าน
สรุป สร้างบ้านเอง กับ ซื้อบ้านจัดสรร
จะเห็นได้ว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงให้ความสนใจไปที่การตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่ครบครันเป็นหลักมากกว่าความสวยงาม โดยเฉพาะเรื่องทำเลที่ตั้งและระบบขนส่งสาธารณะที่เป็นสองอันดับแรกที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญสูงสุดอีกหนึ่งปัจจัยที่มีความสำคัญในการอยู่อาศัยไม่แพ้กัน คือ ความปลอดภัยของที่อยู่อาศัย
แม้เหตุผลที่หลายคนตัดสินใจเลือกซื้อบ้านใหม่จากโครงการบ้านจัดสรรเพราะต้องการความครบครันพร้อมอยู่อาศัยอย่างเบ็ดเสร็จ และประหยัดเวลาในการใช้ชีวิตหลาย ๆ ด้าน แต่ต้องไม่ลืมว่า “การเลือกซื้อบ้านใหม่” นั้น ผู้อยู่อาศัยจริงไม่ได้มีบทบาทในการวางระบบความปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้าง แล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่าบ้านใหม่ที่ซื้อมาตอบโจทย์การอยู่อาศัยได้เพียงพอ ในขณะที่การจะตัดสินใจ “สร้างบ้านเอง” ก็มีความกังวลในเรื่องการควบคุมคุณภาพการก่อสร้างและการประสานงานกับผู้รับเหมา แล้วการมีบ้านหลังใหม่ในรูปแบบไหนที่เหมาะกับคุณมากกว่า
ทั้งนี้ผู้ซื้อเองก็ควรพิจารณาถึงข้อจำกัดและความต้องการของตัวเองว่าจะเหมาะกับบ้านจัดสรร หรือ บ้านสร้างเองมากกว่ากัน เพราะในแง่ของเงินลงทุนก็คงตอบได้ไม่แน่ชัดว่าแบบใดจะใช้เงินน้อยกว่ากัน ขึ้นอยู่กับการควบคุมและการตั้งงบประมาณของแต่ละคน ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจแต่ละท่านว่าให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากที่สุด
งานบริการยอดนิยมจาก บริษัทTAMPBUILDER ออกแบบ เขียนแบบ ถอดแบบ รับเหมาก่อสร้างบ้านและอาคาร ครบวงจร