ฮวงจุ้ยบ้าน เรียกทรัพย์ เสริมดวง ตำแหน่งมังกร ร่ำรวยมั่งคั่ง สงบร่มเย็น

ฮวงจุ้ยบ้าน

ห้องต่างๆมี ฮวงจุ้ยบ้าน ที่ดีหรือไม่ดี เราควรรู้ว่าห้องต่างๆส่วนต่างๆของบ้านควรหันหน้าเข้าทิศไหน อะไรคือ ฮวงจุ้ยมังกรเขียว เสือขาว ตำแหน่งบันได ห้องน้ำ หน้าต่าง ประตู หน้าบ้านหลังบ้าน ควรทำยังไงให้อยู่สุขภาพดีไม่ป่วยบ่อย ควรมีบ่อน้ำ น้ำตกที่บ้านหรือไม่ เพื่ออะไร? ฮวงจุ้ยบ้านภูเขา ทางสามแพร่ง ขวาไฟซ้ายน้ำ หรือ เลขที่บ้านมีผลอย่างไรมาติดตามกัน

บ้าน เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตและเป็นที่อยู่อาศัยเพื่อการพักผ่อน ดังนั้นหากจะดำเนินการสร้างบ้านให้ตอบโจทย์ดังกล่าวนอกจากการออกแบบและสร้างอย่างมีมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยแล้ว การคำนึงถึงปัจจัยแวดล้อมที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสุขสบายและมั่นใจในทุกๆ วันของการใช้ชีวิตที่บ้าน โดยเฉพาะการออกแบบและจัดองค์ประกอบตามหลัก ฮวงจุ้ยบ้าน ซึ่งจะมีเรื่องไหน หรือส่วนใดของพื้นที่ต้องระวัง ให้ความสำคัญเป็นพิเศษอย่าพลาดที่จะอ่านกันนะ

การสร้างบ้านหรือเลือกซื้อบ้านใหม่ สำหรับคนทั่วไปจะมุ่งเน้นเลือกซื้อตามทำเลและราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณ แต่หากผู้อ่านต้องการบ้านที่ดี อยู่แล้วร่ำรวย อยู่แล้วเจริญรุ่งเรือง การเลือกบ้านแบบคนทั่วไปอาจยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ แต่จำเป็นต้องเรียนรู้ศาสตร์ฮวงจุ้ยเพิ่ม เพื่อให้บ้านเป็นส่วนกระตุ้นโชคลาภให้กับผู้อยู่อาศัย

ศาสตร์ ฮวงจุ้ยบ้าน

ในมุมมองของผู้เขียน เป็นศาสตร์ที่อิงหลักสถาปัตยกรรม อิงวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีตัวแปรต่าง ๆ ที่สามารถพิสูจน์หาข้อเท็จจริงได้ อีกทั้งยังมีผลลัพธ์ทางด้านสถิติที่แม่นยำ จึงทำให้ศาสตร์ฮวงจุ้ยได้การยอมรับมานับพันปี อย่างไรก็ตามยุคปัจจุบันวงการฮวงจุ้ยในไทยได้แตกแขนงไปหลายด้าน มีทั้งด้านที่อิงวิทยาศาสตร์และด้านความเชื่อ โดยทาง TAMPBUILDER จะมีข้อมูลทั้งทางที่อิงวิทยาศาสตร์เป็นหลักและความเชื่อส่วนบุคคล ทั้งนี้ขึ้นอยู่อยู่กับวิจารณญาณของผู้อ่าน

สำหรับผู้ที่เชื่อในศาสตร์ของฮวงจุ้ย เพื่อทำให้บ้านช่วยเสริมพลังให้กับตัวเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ การมีฮวงจุ้ยบ้านที่ดียังสามารถช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพที่ดี การงานที่ก้าวหน้าขึ้น หรือเสริมทรัพย์โชคลาภเงินทองตามมา

สารบัญ

ฮวงจุ้ยบ้าน ภายในตัวบ้าน ที่ดีต้องเป็นแบบไหนบ้าง?

ควรมีลักษณะ 18 ประการ ดังต่อไปนี้

ฮวงจุ้ยบ้านที่ดีภายในตัวบ้าน

  • 1. ฮวงจุ้ยหน้าบ้านเปิดโล่ง โปร่งสบาย

ตามหลักของศาสตร์ฮวงจุ้ยแล้ว ประตูหน้าบ้านเปรียบเสมือนที่ที่คอยเปิดรับพลังดี ๆ เข้าสู่ตัวบ้าน โดยเฉพาะเรื่องของโชคลาภ ดังนั้นไม่ควรวางของระเกะระกะ หรือทำให้ดูรก แต่หากจำเป็นต้องวางของจริง ๆ ก็ควรที่จะวางให้อยู่ด้านใดด้านหนึ่ง หรือมีตู้เก็บมิดชิดไม่ให้กีดขวางประตู

และที่สำคัญอีกประการคือ อย่าให้สิ่งของเหล่านั้นอยู่เหนือลม เพราะลมจะพัดพากลิ่นไม่พึงประสงค์เข้าบ้านได้ ซึ่งตามศาสตร์การจัดบ้านตามหลังฮวงจุ้ยแล้วถือว่าเป็นฮวงจุ้ยที่ไม่ดี

  • 2. ฮวงจุ้ยประตูเข้าบ้าน

ประตูบ้านที่ดีต้องสะอาด แข็งแรง มีคุณภาพ และประตูทางเข้าบ้านที่ดีนั้น ไม่ควรตรงกับประตูบานอื่นภายในบ้าน รวมถึงประตูหน้าต่างบานใหญ่ อีกทั้งไม่ควรหันชนกับประตูตู้ ประตูห้องน้ำ และบันได อย่างต่ำ ควรอยู่ห่างจากผนังและบันไดอย่างน้อย 2 – 3 ฟุต โดยเฉพาะไม่ควรตรงกับประตูห้องน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้พลังงานดี ๆ ถูกพัดผ่านออกไป

นอกจากนี้เนื่องจากตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว ประตูเป็นด่านแรกในการต้อนรับพลังงานเข้าบ้าน ยิ่งประตูสะอาด แข็งแรง และมีคุณภาพดีมากเท่าไร ก็ยิ่งสื่อถึงพลังงานดี ๆ ที่จะเข้ามามากเท่านั้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วควรใช้ประตูที่มีโทนสีสว่าง นอกจากนี้ลักษณะประตูดีควรต้องเป็นประตูที่เปิดเข้ามาข้างในบ้าน ไม่ใช่เปิดออก เพราะประตูแบบนี้จะเหมือนเป็นการนำพาพลังงานดี ๆ เข้าสู่บ้าน รวมถึงถ้าสร้างประตูไว้ด้านซ้ายมือของบ้าน ก็จะช่วยให้มีโชคลาภเข้ามามากขึ้นด้วย

ประตูหน้าบ้านตรงกับประตูหลังบ้าน ตามความเชื่อกล่าวว่า เจ้าบ้านจะเก็บเงินไม่อยู่ เงินไหลมาก็พร้อมไหลออก จะรื้อบ้านก็ใช่ว่าจะทำได้อย่างใจคิด วิธีแก้ง่ายๆ ก็แค่นำฉากหรือตู้ขนาดใหญ่มาวางกั้นระหว่างประตูหน้าและหลัง บดบังทิศทางเงินไหลออก ได้แต่งบ้านด้วยแถมได้ผลเรื่องฮวงจุ้ยด้วย

สรุปประตูเข้าบ้าน

ประตู หน้าบ้านเปิดรับทรัพย์

  1. ประตูบ้านที่ดีตามหลักฮวงจุ้ย : ควรเปิดในระยะ 45 องศา และต้องไม่มีต้นไม้ใหญ่ เสาไฟฟ้า ป้ายโฆษณาหรือเหลี่ยมมุมตึกทิ่มแทงเข้าสู่ตัวประตูบ้าน ว่ากันว่าการที่ประตูเปิดออกมากไปจะทำให้เงินทองรั่วไหล และถ้ามีสิ่งกีดขวางทางประตูก็จะทำให้เงินทองติดขัด ใช้ชีวิตได้ไม่ราบรื่นค่ะ
  2. ตำแหน่งประตูหน้าบ้าน : ไม่ควรตรงกับประตูหลังบ้าน เชื่อว่าจะทำให้เงินทองรั่วไหล เก็บเงินไม่อยู่ หากประตูทั้งสองบานตรงกัน วิธีแก้ไขให้หาเฟอร์นิเจอร์เช่นตู้หรือโต๊ะคั่นระหว่างกลาง หรือหาฉากกั้นมาบังไม่ให้ตรงกันก็ได้
  • 3. ฮวงจุ้ยห้องรับแขก

เนื่องจากเป็นจุดศูนย์รวมของบ้านจึงเปรียบเสมือนห้องเก็บโชคลาภ ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วห้องรับแขกที่ดี ไม่ควรมี ฉากมาตั้งกั้นไว้ตรงประตูทางเข้า นอกจากจะเป็นการสกัดการไหลเวียนของกระแสโชคลาภแล้ว ยังหมายถึงการเก็บเงินไม่อยู่ เกะกะและไม่สวยงามอีกด้วย ส่วนเฟอร์นิเจอร์อย่างเช่นโซฟาหรือชุดรับแขกควรจะวางไปในทิศทางเดียวกันกับตู้โชว์ โดยอาศัยหลักการที่ว่า เจ้าของบ้านขาดธาตุใดหรืออยากเสริมธาตุใด ก็ควรที่จะวางโซฟาไปในทิศทางนั้น ๆ เนื่องจากการจัดวางตู้โชว์และโซฟาเปรียบเสมือนภูเขาที่รับลมจากน้ำซึ่ง เป็นพลังหยิน ที่จะช่วยเสริมบารมีให้แก่เจ้าของบ้านนั่นเอง นอกจากนี้ทิศของห้องรับแขกกับสีสันที่ใช้ก็มีผลในศาสตร์ฮวงจุ้ยเช่นกัน

  1. ทิศตะวันออก : เป็นทิศของการต่อสู้เพื่อครอบครัว ดังนั้นสีของเฟอร์นิเจอร์อย่างโซฟาหรือชุดรับแขก ควรเป็นการผสมผสานสีดำ ฟ้า น้ำเงินคราม ชมพู เขียวและแดง รูปทรงของเฟอร์นิเจอร์ควรเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า จัดให้กลมกลืนกับห้องรับแขก จะช่วยส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองให้กับครอบครัวได้มากขึ้น
  2. ทิศตะวันออกเฉียงใต้ : เป็นทิศของความมั่งคั่งร่ำรวย เนื่องจากพื้นที่ทิศนี้เป็นธาตุไม้ ดังนั้นควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาจากวัสดุไม้มาตกแต่ง และควรใช้โทนสีเขียว ฟ้า ดำ คราม เป็นองค์ประกอบให้เกิดความสมดุลสวยงาม และควรมีโต๊ะกาแฟซึ่งเป็นองค์ประกอบของธาตุไฟ เอาไว้เป็นของตกแต่งฮวงจุ้ยเพื่อสร้างบรรยากาศด้วย
  3. ทิศใต้ : เป็นพื้นที่ของพลังอำนาจ ชื่อเสียง ยศฐาบรรดาศักดิ์และการยอมรับ เนื่องจากเป็นพื้นที่ธาตุไฟ ดังนั้นควรเลือกของตกแต่งฮวงจุ้ยที่มีทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยใช้สีน้ำตาล เขียว ชมพู เป็นหลัก ไฟในห้องรับแขกควรใช้สี Warmlight ให้ดูอบอุ่น หรือใช้พรมสีน้ำตาลในการตกแต่ง ที่สำคัญควรจัดให้ดูโล่ง โปร่งสบาย รับกระแสลมของความมงคลตามการจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย
  4. ทิศตะวันตกเฉียงใต้ : เป็นพื้นที่ของความรัก ความสัมพันธ์ ชีวิตสมรสและครอบครัว ชุดรับแขกและเฟอร์นิเจอร์ควรจัดให้ดูสดใสในสไตล์โมเดิร์น และใช้ไฟในห้องที่มีสี Earth Tone เพื่อให้มีความกระปรี้กระเปร่า และอาจแทรกด้วยของตกแต่งตามหลักฮวงจุ้ย ที่มีสีชมพู เพื่อกระตุ้นความรักและสร้างความสุขในครอบครัว
  5. ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ : เป็นมุมแห่งการอุปถัมภ์ ค้ำชู ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ในมุมนี้ตามหลักจัดบ้านตามฮวงจุ้ย ควรที่จะติดกระจก และเลือกชุดรับแขกหรือของตกแต่งต่าง ๆ ที่มีสีน้ำตาล จะส่งผลดีต่อครอบครัวที่สุด
  6. ทิศตะวันตก : มุมแห่งความหวัง อนาคตและความลับ ดังนั้นในห้องรับแขกจึงควรใช้สีเทาอ่อน และใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีวัสดุมาจากโลหะหรือสแตนเลส แต่เนื่องจากเป็นทิศที่รับความร้อนเป็นอย่างมาก ควรที่จะหาของตกแต่งฮวงจุ้ยอย่างตู้ปลาเอามาตั้งไว้ จะช่วยให้ดูเย็นขึ้น
  7. ทิศเหนือ : เป็นพื้นที่ส่งเสริมในด้านการงานอาชีพ ทิศนี้ควรใช้สีขาวและฟ้า ผสมผสานให้ลงตัว และเสริมด้วยต้นไม้สีเขียวให้ดูสบายตา พร้อมกับใช้ไฟโทนสว่างเย็นอย่างโทนสีขาว ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน
  8. ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ : เป็นมุมแห่งการเรียนรู้ การศึกษา และพัฒนาชีวิต เพราะบริเวณนี้เป็นธาตุดิน ดังนั้นการจัดพื้นที่ในห้องรับแขกควรจัดสไตล์โมเดิร์น โดยใช้สี Warmlight หรือแนว Earth Tone ข้าวของเครื่องใช้ เพราะจะส่งผลดีต่อเรื่องการเรียนการศึกษา และหากมีของตกแต่งฮวงจุ้ยอย่างชั้นวางหนังสือด้วยแล้ว จะยิ่งส่งเสริมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

สรุปทิศฮวงจุ้ยของห้องรับแขก

ตำแหน่งนี้ถือได้ว่ามีอิทธิพลกับการใช้ชีวิต โดยตำแหน่งที่ดีมี 2 ส่วน ส่วนแรกคือบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ เป็นตำแหน่งของความรักและการแต่งงาน ส่วนที่สองคือบริเวณทิศตะวันตก เป็นตำแหน่งของเด็ก ๆ และความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมกับการรวมตัวของคนในครอบครัว

  • 5. ฮวงจุ้ยห้องน้ำ ห้องซักล้าง ตู้เสื้อผ้า

ส่วนแรกห้องน้ำ : ถ้าหมั่นรักษาดูแลห้องน้ำสะอาด นอกจากจะทำให้คนในบ้านมีสุขอนามัยที่ดี ลดการเกิดโรคจากสารพัดเชื้อโรคได้แล้ว ทางฮวงจุ้ยยังถือว่าห้องน้ำที่สะอาดอยู่เสมอและมีลักษณะที่ดี กล่าวคือห้องไม่ควรตรงข้ามกับประตูทางเข้า กลางบ้าน ซึ่งถือเป็นตำแหน่งของการเงิน ความรัก และความสัมพันธ์ และ ไม่ตั้งใกล้ห้องครัว ก็จะทำนำพาพลังดี ๆ เข้ามาในบ้าน ที่จะส่งผลทำให้บ้านร่มเย็นเป็นสุข

สำหรับการวางฮวงจุ้ยของห้องน้ำ ไม่ควรตั้งส้วมอยู่กลางบ้าน ตามความเชื่อจะทำให้เกิดความแตกแยกกันในครอบครัว โชคลาภหายไป ไม่สามารถเก็บเงินทองอยู่ได้ และอีกอย่างคือ ห้องน้ำเกิดมลพิษได้ง่าย เมื่ออยู่กลางบ้านก็จะทำให้การระบายอากาศไม่ดี ควรจัดห้องน้ำให้อยู่ทางทิศตะวันออก เพราะถือว่าเป็นทิศทางวางตำแหน่งที่ดี จะทำให้คนภายในบ้านประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ทำให้เรามีสุขภาพจิตที่ดี และไม่ควรจัดวางทางทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้

ส่วนที่สองห้องซักล้าง : ไม่ควรอยู่ตรงกับห้องนอนหรือประตูทางเข้าบ้าน

ส่วนที่สามตู้เสื้อผ้า : ไม่ควรมีตู้เก็บของขนาดใหญ่อยู่ใกล้กับห้องนอน

  • 6. ฮวงจุ้ยห้องครัว

ห้องครัวคือแหล่งพลังงานสำคัญของบ้านเลยก็ว่าได้ ซึ่งส่งผลทางด้านสุขภาพ บารมี และเงินทองโชคลาภโดยตรง ดังนั้นวิธีจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ยที่ดีคือ ทิศทางตำแหน่งของเตาไฟในห้องครัว ควรหันออกไปทางทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคล และเลี่ยงการตั้งตำแหน่งเตาให้ตรงกับเครื่องซักผ้าและประตู เนื่องจากตามหลักจัดบ้านตามฮวงจุ้ยแล้ว จะทำให้เงินทองหดหายยากจนลง เพราะเตาไฟในห้องครัวถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มพลังงานบวกลงไปในอาหาร หากรับประทานเข้าไปจะทำให้ชีวิตดีขึ้นนั่นเอง

ห้องครัวเป็นห้องที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพและธาตุไฟ เราไม่ควรสร้างห้องครัวไว้ใกล้กับหน้าบ้านหรือประตูบ้าน โดยตำแหน่งห้องครัวที่ดีที่สุดคือ บริเวณหลังบ้าน และเพื่อไม่ให้ธาตุไฟและธาตุน้ำในครัวตีกัน ควรแยกวางตู้เย็น ซิงค์ และเตาเอาไว้ในมุมต่าง ๆ ของห้อง โดยให้ระดับของห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องทานอาหาร สามารถอยู่ในระนาบเดียวกันได้ แต่ห้ามสร้างห้องครัวติดกับห้องนอนเด็ดขาด เพราะจะทำให้ร้อนและมีสุขภาพไม่ดี อีกทั้งควรระวังอย่าให้มีขื่อพาดอยู่ในห้องครัว เพราะจะนำมาซึ่งความเจ็บป่วยมาให้คนในบ้าน

สำหรับห้องครัวนั้นเปรียบเสมือนความอุดมสมบูรณ์และสุขภาพร่างกายของคนในครอบครัว เพราะฉะนั้นแล้วการวางตำแหน่งห้องครัว ควรจะอยู่ในมุมที่สะอาดหรือทำความสะอาดง่าย ไม่ควรอยู่บริเวณทางเข้าบ้าน เพราะจะถือว่าเป็นการแย่งโชคลาภ สำหรับห้องครัวนั้นควรจัดอยู่ทางทิศใต้หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ และที่สำคัญไม่อยู่ติดห้องน้ำ เหตุผลบอกไปแล้วในข้างต้น

สรุปฮวงจุ้ยของห้องครัว

ตามหลักของฮวงจุ้ยแล้ว การมีห้องครัวที่ดีจะนำมาซึ่งสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีด้วย ซึ่งลักษณะของตำแหน่งที่ไม่ควรทำห้องครัวคือ บริเวณที่ใกล้กับประตูทางเข้าบ้าน ที่จะเห็นเป็นห้องแรกเมื่อเข้ามาในบ้าน ไม่ควรอยู่ใต้ห้องน้ำและหันชนกับห้องน้ำ ไม่ควรอยู่ใกล้บันได แต่จุดที่ดีคือ ใกล้ห้องซักล้างและโรงรถ ทั้งนี้ส่วนของที่จุดเตาไฟ ให้ยึดหลักว่าเมื่อทำอาหารไม่ควรหันหลังให้ประตู

  • 7. วางเตาให้ถูกที่

เตาไฟเป็นเครื่องมือในการเติมพลังงานให้กับมนุษย์ เตาจึงเป็นจุดกำเนิดพลังงานภายในบ้านที่สำคัญและควรวางให้ถูกตำแหน่งตามหลักฮวงจุ้ย โดยหลักการของการวางเตาในบ้านมี 4 ข้อ คือ

  1. ตำแหน่งเตาไม่ควรตรงกับห้องนอน
  2. หน้าเตาไม่ควรตรงกับตำแหน่งเตียงนอน
  3. หน้าเตาไม่ควรตรงกับตำแหน่งตู้เย็นหรือซิงค์ล้างจาน
  4. หัวเตาควรหันไปทางทิศใต้หรือทิศตะวันออก
  • 8. ฮวงจุ้ยห้องนอน

ห้องนอนควรจะสงบ ปลอดภัย ไร้เสียงรบกวน และจะให้ดีควรหันหน้าไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นจึงไม่ควรสร้างห้องนอนบนโรงรถ ห้องทำงาน และห้องครัว แต่ควรจะตั้งอยู่เหนือห้องกินข้าวหรือห้องนั่งเล่นแทน ส่วนประตูห้องนอนไม่ควรสร้างตรงกับหน้าต่าง ประตูห้องน้ำ และประตูห้องอื่น ๆ เพราะจะทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ รวมถึงไม่ควรสร้างประตูห้องนอนตรงกับบันไดทางผีผ่าน อีกทั้งหากใครคิดจะสร้างห้องนอนไว้ชั้นล่าง ควรเลือกสร้างในบริเวณที่พื้นที่ข้างบนไม่ตรงกับห้องน้ำ

ห้องนอน คือ ที่พักผ่อนของทุกคนในบ้าน ดังนั้นการวางตำแหน่งเตียงนอน ก็มีส่วนช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมั่นใจได้ถึงโชคลาภและโอกาสที่จะส่งเสริมให้เกิดความก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ โดยทิศทางการวางเตียงนอนก็มีอิทธิพลที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

  1. ทิศเหนือ : ช่วยในเรื่องการพัฒนาการเรียนรู้
  2. ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ : เหมาะกับอาชีพหรือคนที่ทำงานเกี่ยวกับการค้นคว้าทดลอง
  3. ทิศตะวันออก : ช่วยให้การนอนหลับสบาย
  4. ทิศตะวันออกเฉียงใต้ : ช่วยในเรื่องการมีความเพียรพยายามในการทำงาน
  5. ทิศใต้ : ช่วยส่งเสริมให้มีชื่อเสียง เกียรติยศ
  6. ทิศตะวันตก : ช่วยให้มีลูกที่ดี
  7. ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ : ช่วยส่งเสริมให้มีบริวาร เพื่อนฝูงมากมาย

หลักการในการวางเตียงนอนในบ้านตามหลักฮวงจุ้ย

หลักการในการวางเตียงนอนในบ้าน ประกอบไปด้วยอะไร

ฮวงจุ้ยห้องนอนเป็นเรื่องสำคัญมาก ด้วยความที่ห้องนอนเป็นที่พักผ่อนหลับนอน หากจัดวางเตียงนอนหรือทิศทางของห้องนอนไม่ถูกต้อง จะส่งผลเสียกับสุขภาพเราโดยตรง มาดูกันดีกว่าว่าหลักการวางเตียงที่ดี มีอะไรบ้าง

  • a. ห้องนอนห้ามอยู่ตรงกับห้องน้ำหรือบันได : ด้านความเชื่อห้องน้ำมีพลังงานด้านลบ หากอยู่ตรงกับห้องนอนจะพบแต่สิ่งไม่ดี และอยู่ตรงกับบันไดเชื่อว่าทำให้เงินทองรั่วไหล ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นการรบกวนการนอน ทั้งในเรื่องกลิ่นของห้องน้ำและคนรบกวน
  • b. ไม่ควรวางเตียงนอนกลางห้องนอน : ตำแหน่งเตียงที่ดีควรอยู่ชิดกับผนัง และควรเว้นที่ว่างสองข้างให้เท่ากัน เพื่อความสมดุล
  • c. ไม่ควรวางเตียงนอนกลางประตูห้องนอนโดยตรง : จะทำให้ถูกรบกวนได้ง่าย
  • d. หัวเตียงควรหันเข้าหากำแพงโดยตรง : ไม่ควรตั้งลอย ๆ กลางห้อง หรือชนกับหน้าต่าง เพราะเวลาที่เราหลับพลังงานจะอ่อนแอ ผนังที่แข็งแรงจะช่วยป้องกันและส่งเสริมพลังให้แก่เราได้
  • e. หัวเตียงไม่ควรผิงผนังด้านที่ติดประตูห้องนอนหรือห้องน้ำ : เชื่อว่าจะรับเอาพลังงานที่ไม่ดีเข้ามาสู่ตัว
  • f. หัวเตียงไม่ควรผิงผนังด้านที่ติดหน้าต่าง : ด้านความเชื่อจะทำให้รับพลังงานด้านลบจากด้านนอกเข้ามา ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้หาผ้าม่านหน้าต่างดี ๆ มาติดตั้ง ส่วนการใช้งานจริงจะทำให้นอนหลับไม่สบายเอาได้

นอกจากเตียงนอนและทิศทางการวาง ที่จะส่งเสริมในเรื่องต่าง ๆ แล้ว ทิศทางของโต๊ะทำงานในห้องนอน ก็มีส่วนช่วยเสริมดวง ตามหลักการจัดบ้านตามฮวงจุ้ยอีกด้วย เพราะทิศทางการวางโต๊ะทำงาน จะส่งผลให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานนั่นเอง โดยทิศทางการวางแบ่งได้ตามธาตุของบุคคลนั้น ๆ ดังนี้

  • ธาตุไม้ : ควรนั่งหันหน้าไปยังทางทิศตะวันออก
  • ธาตุไฟ : ควรนั่งหันหน้าไปยังทิศใต้
  • ธาตุดิน : ควรนั่งหันหน้าไปยังทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หรือ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ธาตุทอง : ควรนั่งหันหน้าไปยังทิศตะวันตก

สรุปฮวงจุ้ยของห้องนอน

ห้องนอนเป็นส่วนที่สำคัญมากในบ้าน เพราะห้องนอนต้องการพลังที่สงบ เพื่อสนับสนุนการนอนและ ส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเพศ ตำแหน่งที่ดีของห้องนอนควรอยู่ในพื้นที่ ที่สงบหรือมีความสมบูรณ์ของกิจกรรม เช่น การอยู่เหนือบริเวณที่อ่านหนังสือ เหนือห้องรับประทานอาหาร หรืออาจจะเป็นบริเวณข้างหลังบ้าน เพื่อไม่ให้มีพลังของการจราจร ที่เป็นความสับสนวุ่นวายเข้ามา และอีกตำแหน่งที่ไม่ดีคือ เหนือโรงครัวและออฟฟิศ อีกทั้งในห้องนอนไม่ควรมีหน้าต่างบานใหญ่ ที่ตรงกับประตูห้องนอน และเตียงไม่ควรอยู่ใต้หน้าต่าง แต่หัวเตียงควรพิงกับผนัง

  • 9. ฮวงจุ้ยประตูกับหน้าต่าง

เนื่องจากลมสามารถเข้า – ออกบ้านได้ทางประตูและหน้าต่าง พลังงานที่ดีก็เช่นเดียวกัน ฉะนั้นเราควรจัดสมดุลของการติดตั้งประตูและหน้าต่างให้ดี โดยประตูแต่ละห้องไม่ควรอยู่ใกล้ชิดกันเกินไป ส่วนหน้าต่างก็ควรให้อยู่ในระดับกึ่งกลางของผนังบ้านไม่สูงและไม่ต่ำจนเกือบชิดพื้น เพื่อรักษาพลังชี่ (Chi) เอาไว้ ส่วนหลังบ้านจะต้องไม่มีประตูและหน้าต่างเยอะเกินความจำเป็นเพราะจะทำให้พลังงานชี่อ่อนตัวลง

ที่ติดตั้งประตูและหน้าต่างก็มีส่วนสำคัญทั้งสิ้น โดยเป็นช่องทางของแสงและพลังงานที่จะไหวเวียนเข้าออกผ่านทางประตู ดังนั้นหน้าต่างและประตูทุกจุด ทุกบานจะมีความสัมพันธ์กัน ซึ่งหลักๆแล้วหน้าต่างทุกบานไม่ควรอยู่ใกล้กันจนเกินไป

เมื่อเปิดหน้าต่างออกมาแล้ว บานประตูแต่ละบานต้องไม่ชนกัน และควรมีพื้นที่รอบ ๆ เป็นของตัวเอง จุดที่ควรระวังเลยคือ อย่าให้บานหน้าต่างตรงกับประตูทางเข้าบ้าน หรือหน้าต่างบานสูงใหญ่ อีกทั้งการมีหน้าต่างในบ้านหลายบาน จะทำให้พลังงานในบ้านยิ่งอ่อนแอลง

  • 10. ฮวงจุ้ยบันได

บันไดบ้านที่ดีควรอยู่ชิดติดด้านใดด้านหนึ่งของตัวบ้าน เพราะจะช่วยเสริมเรื่องโชคลาภให้ดีขึ้น พยายามหลีกเลี่ยงการสร้างห้องน้ำไว้ใต้บันไดบ้าน รวมถึงควรสร้างขั้นบันไดให้มีจำนวนเป็นเลขคี่ เพราะในจีนเลขคี่สื่อถึงคนเป็น (เลขคู่สื่อถึงคนตาย) และที่สำคัญห้ามให้บันไดอยู่ตรงกับประตูเข้าบ้าน เพราะจะเปรียบเหมือนการเปิดรับพลังไม่ดีให้ขึ้นบันไดไปสู่ห้องนอนในชั้นด้านบนได้ง่าย อีกทั้งยังอาจนำมาซึ่งปัญหาการเงินด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น แต่เรายังไม่ควรสร้างบันไดไว้กลางบ้านด้วย เพราะจริง ๆ แล้วพื้นที่บริเวณกลางบ้านควรเป็นที่ว่าง และยังเชื่อกันว่าหากวางบันไดไว้กลางบ้านอาจทำให้ผู้อยู่อาศัยมีปัญหาเกี่ยวโรคหัวใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าบันไดที่สร้างไว้กลางบ้านเป็นบันไดวน อาจนำไปสู่ชีวิตที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เพราะบันไดวนเปรียบเหมือนการที่พลังงานหมุนวนอยู่กับที่ไม่ถ่ายเทไปจุดอื่นนั่นเอง

นอกจากนี้สำหรับคนไทยเราแล้วควรหลีกเลี่ยงการทำบันไดที่มีทางขึ้นสองฝั่ง เพราะจะไปคล้ายกับเมรุเผาศพ ซึ่งถือเป็นอัปมงคลมาก ๆ แล้วก็ไม่ควรสร้างบันไดไว้บริเวณนอกบ้านด้วย

สรุปฮวงจุ้ยของบันได

บันใดเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งของบ้าน ที่ต้องให้ความสำคัญ ซึ่งมี 3 ตำแหน่งหลัก ๆ ที่ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ไม่ดี

  1. ส่วนแรก คือ บริเวณกลางบ้านหรือสำนักงาน เพราะพลังงานบริเวณกึ่งกลางบ้านเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งถือเป็นหัวใจของบ้าน การทำบันใดตรงตำแหน่งนี้จะทำให้มีพลังงานขึ้นลงมาขัดขวาง
  2. ส่วนที่สอง คือ ตำแหน่งถัดจากประตูเข้าบ้าน เพราะขัดขวางพลังซี่ ทำให้เกิดความเร่งรีบ ทำอะไรไม่สำเร็จ ไม่มีความมั่นคง และ
  3. ส่วนที่สาม คือ ทางด้านทิศตะวันออกที่เป็นตำแหน่งของสุขภาพ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่เป็นตำแหน่งของความรัก และทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นตำแหน่งของเงินทอง
บันได แข็งแรง มั่นคงนำ
  • บันไดที่ดีตามหลักฮวงจุ้ย : ไม่ควรมีตำแหน่งที่กลางบ้าน เชื่อว่าจะทำให้เจ้าบ้านอยู่ไม่ติดบ้าน ไม่ควรมีทางขึ้น-ลงสองฝั่ง ดูคล้ายเมรุเป็นสิ่งไม่ดี และบันไดต้องลงด้วยเลขคี่ บันไดถือว่าเป็นตัวเชื่อมโยงพลังงานดีระหว่างตัวบ้านในแต่ละชั้น ควรให้ความสำคัญไม่แพ้สิ่งอื่นเลย
  • บันไดต้องเหยียบได้เต็มฝ่าเท้า : ความชันของบันไดจะต้องอยู่ที่ประมาณ 45 องศา และใช้วัสดุที่มีความแข็งแรง เพราะบ่งบอกว่าบ้านนั้นมีความแข็งแรงมั่นคง เดินสะดวกและไม่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุด้วย
  • 11. ฝ้าเพดานสูงๆ

เนื่องจากฝ้าเพดานยิ่งสูงยิ่งทำให้มีเนื้ออากาศเข้ามามาก เกิดความเย็นสบาย ปลอดโปร่ง โดยเฉพาะบ้านชั้นเดียวฝ้าเพดานสูงๆ เป็นเรื่องจำเป็นมาก ไม่เช่นนั้นบ้านจะร้อนมาก เพราะหลังคาจะต้องอมความร้อนอยู่ตลอดทั้งวัน สำหรับความสูงควรสูงเท่าไรจึงเหมาะสม ขอตอบว่ายิ่งสูงยิ่งดี หรืออย่างน้อยควรมากกว่า 2.7 เมตร

  • 12. ของแต่งบ้านฮวงจุ้ย

การเลือกของตกแต่งบ้านฮวงจุ้ย เข้ามาอยู่ในบ้าน จะช่วยเสริมในเรื่องต่าง ๆ ให้กับชีวิตของคนในครอบครัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยเรือสำเภาและเรือรูปทรงอื่น ๆ เพราะเรือสำเภาเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและการเดินทาง ดังนั้นการจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ยนี้ จะช่วยให้มีโอกาสเดินทางและมีเงินทองมั่งคั่งสมบูรณ์

โดยตำแหน่งที่ดีในการตั้งก็คือ ห้องรับแขก โดยหันหัวเรือเข้าในบ้านและบนเรือควรประดับตกแต่งด้วยเงินตราของจีน เงินไทย เพชรพลอย เปรียบเสมือนเรือได้นำแก้วแหวน เงินทองมาให้เรา

  • 13. จัดวางสิ่งของในบ้าน เสริมดวงตามหลักฮวงจุ้ย

  • ทิศเหนือ : เป็นทิศธาตุน้ำ ควรตกแต่งด้วยน้ำพุหรือวัตถุทรงโค้ง ทรงกลม วาว รูปคลื่น หรือใช้สีฟ้า น้ำเงิน เทา ดำ ขาว เงิน ทอง
    และ ห้ามใช้สี เหลือง ส้ม ครีม น้ำตาล โอลด์โรส ตกแต่งบ้านเด็ดขาด
  • ทิศใต้ : เป็นทิศธาตุไฟ ควรประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ ต้นไม้ หรือวัตถุทรงสูง ทรงกระบอก ทรงพีระมิด หรือใช้สีแดง ชมพู เขียว และ ห้ามใช้ฟ้า น้ำเงิน เทา ดำ ตกแต่งบ้านเด็ดขาด
  • ทิศตะวันออก และตะวันออกเฉียงใต้ : เป็นทิศธาตุไม้ ควรตกแต่งด้วยต้นไม้ น้ำพุ หรือวัตถุทรงสูง รูปทรงคลื่น หรือใช้สีเขียว ฟ้า น้ำเงิน เทา ดำ และ ห้ามใช้สีเงิน ทอง โลหะ ต่าง ๆ ตกแต่งบ้านในทิศนี้เด็ดขาด
  • ทิศตะวันตก และตะวันตกเฉียงเหนือ : เป็นทิศธาตุทอง ควรตกแต่งด้วยโลหะทรงกลม แวววาว เซรามิค เครื่องปั้นดินเผา หรือสีเงิน ทอง น้ำตาล ครีม เหลือง ส้ม โอลด์โรส ห้ามใช้สีแดง ชมพู ตกแต่งบ้านในทิศทางนี้โดยเด็ดขาด
  • ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียงใต้ : เป็นทิศธาตุดิน ควรตกแต่งด้วย เซรามิค เครื่องปั้นดินเผา หรือสีเหลือง ส้ม ครีม น้ำตาล โอลด์โรส แดง ชมพู ห้ามใช้สีเขียว ตกแต่งบ้านในทิศทางนี้โดยเด็ดขาด
  • 14. ฮวงจุ้ยเฟอร์นิเจอร์เสริมมิตร

ปรับเฟอร์นิเจอร์ออกห่างจากกำแพง : ควรจะจัดให้ล้อมวง หรือชิดกันเพื่อง่ายต่อการพูดคุยกัน ไม่ควรจัดชิดผนังทั้งหมดเพราะจะทำให้คนในบ้านรู้สึกอึดอัด ทั้งเรื่องความเชื่อและการใช้งานจริง ซึ่งการจัดที่นั่งให้ล้อมวงเข้าไว้ทำให้ความสัมพันธ์ภายในบ้านดีขึ้นด้วย

  • 15. จัดบ้านให้สะอาดอยู่เสมอ

พื้นฐานที่สำคัญของบ้านคือต้องจัดให้สะอาดอยู่เสมอ นอกจากนั้นอยากทำให้บ้านน่าอยู่ขึ้น ให้ลองเพิ่มต้นไม้หรือดอกไม้เข้าไปเพิ่ม ปรับพื้นที่ให้อากาศถ่ายเทสะดวก ตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าไม้ดอกเป็นสิ่งดีจะนำรางวัลมาให้ หรือนำน้ำพุมาตกแต่งบ้าน เพราะน้ำพุถือว่าเป็นตัวแทนของความมั่งคั่งในหลักของฮวงจุ้ย ซึ่งช่วยสร้างพลังและความเจริญรุ่งเรือง ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของเงินทอง

การจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย เป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคล แต่ก็สามารถหยิบหลักการบางอย่าง มาปรับใช้กับตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งในบ้านของเราได้ โดยเฉพาะของแต่งบ้านฮวงจุ้ยต่าง ๆ เพราะจัดบ้านตามฮวงจุ้ยแต่ละครั้ง ก็มีเรื่องของงบประมาณเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ ดังนั้นต้องคำนวณให้รอบคอบและตัดสินใจร่วมกันกับสมาชิกในบ้าน เพื่อความสุขของทุกคนในครอบครัว

  • 16. ของที่ไม่ดีออกจากตัวบ้าน

ใครที่ชอบเก็บของเก่าของเสียไม่ยอมทิ้ง บอกเลยว่าต้องตัดใจ เชื่อกันว่าของที่ชำรุด ขยะ อาวุธ ภาพวาดที่รุนแรง ล้วนเป็นสิ่งไม่ดีที่ส่งผลต่อผู้อยู่อาศัย การนำของที่ไม่ดีออกจากบ้านเปรียบเสมือนการนำพลังงานที่ไม่ดีออกไปด้วย ช่วยให้บ้านสะอาด เพิ่มพลังงานบวกได้เยอะด้วยนะ

  • 17. หาตำแหน่งทรัพย์ของบ้าน

ตำแหน่งทรัพย์ หรือ ‘ไฉ่อุ่ย’ คือตำแหน่งสำหรับการกระตุ้นทรัพย์โดยเฉพาะ เหมาะสำหรับการวางตู้เซฟ โต๊ะเก็บเงิน โต๊ะบัญชี เพื่อให้ทรัพย์ไหลมาเทมาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับบ้านที่ประตูทางเข้าบ้านเปิดด้านขวามือ ตำแหน่งทรัพย์จะอยู่ที่มุมซ้ายของบ้าน ส่วนบ้านที่ประตูทางเข้าบ้านเปิดด้านซ้ายมือ ตำแหน่งทรัพย์จะอยู่ที่มุมขวาของบ้าน และบ้านที่ประตูทางเข้าบ้านเปิดออกที่สู่ตรงกลาง ตำแหน่งทรัพย์จะอยู่ที่ทั้งมุมซ้ายและมุมขวาของบ้าน

  • 18. อย่าทำให้บ้านรก

บ้านที่รกรุงรังนอกจากจะไม่น่าอยู่อาศัยแล้ว ยังจะทำให้การไหลเวียนของพลังงานภายในบ้านไม่ดีอีกด้วย ซึ่งจะไปลดทอนพลังงานของผู้อยู่อาศัยด้วยอีกทางหนึ่ง คุณควรหมั่นจัดบ้านอยู่เสมอ เพราะบ้านที่สะอาดนอกจากจะช่วยเสริมพลังแล้ว ยังช่วยให้สุขอนามัยในบ้านดีขึ้นอีกด้วย

ฮวงจุ้ยบ้าน ภายในตัวบ้าน ที่ดีต้องเป็นแบบไหนบ้าง?

ควรมีลักษณะ 18 ประการ ดังต่อไปนี้

ฮวงจุ้ยบ้านที่ดีภายในตัวบ้าน

  • 1. ฮวงจุ้ยหน้าบ้านเปิดโล่ง โปร่งสบาย

ตามหลักของศาสตร์ฮวงจุ้ยแล้ว ประตูหน้าบ้านเปรียบเสมือนที่ที่คอยเปิดรับพลังดี ๆ เข้าสู่ตัวบ้าน โดยเฉพาะเรื่องของโชคลาภ ดังนั้นไม่ควรวางของระเกะระกะ หรือทำให้ดูรก แต่หากจำเป็นต้องวางของจริง ๆ ก็ควรที่จะวางให้อยู่ด้านใดด้านหนึ่ง หรือมีตู้เก็บมิดชิดไม่ให้กีดขวางประตู

และที่สำคัญอีกประการคือ อย่าให้สิ่งของเหล่านั้นอยู่เหนือลม เพราะลมจะพัดพากลิ่นไม่พึงประสงค์เข้าบ้านได้ ซึ่งตามศาสตร์การจัดบ้านตามหลังฮวงจุ้ยแล้วถือว่าเป็นฮวงจุ้ยที่ไม่ดี

  • 2. ฮวงจุ้ยประตูเข้าบ้าน

ประตูบ้านที่ดีต้องสะอาด แข็งแรง มีคุณภาพ และประตูทางเข้าบ้านที่ดีนั้น ไม่ควรตรงกับประตูบานอื่นภายในบ้าน รวมถึงประตูหน้าต่างบานใหญ่ อีกทั้งไม่ควรหันชนกับประตูตู้ ประตูห้องน้ำ และบันได อย่างต่ำ ควรอยู่ห่างจากผนังและบันไดอย่างน้อย 2 – 3 ฟุต โดยเฉพาะไม่ควรตรงกับประตูห้องน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้พลังงานดี ๆ ถูกพัดผ่านออกไป

นอกจากนี้เนื่องจากตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว ประตูเป็นด่านแรกในการต้อนรับพลังงานเข้าบ้าน ยิ่งประตูสะอาด แข็งแรง และมีคุณภาพดีมากเท่าไร ก็ยิ่งสื่อถึงพลังงานดี ๆ ที่จะเข้ามามากเท่านั้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วควรใช้ประตูที่มีโทนสีสว่าง นอกจากนี้ลักษณะประตูดีควรต้องเป็นประตูที่เปิดเข้ามาข้างในบ้าน ไม่ใช่เปิดออก เพราะประตูแบบนี้จะเหมือนเป็นการนำพาพลังงานดี ๆ เข้าสู่บ้าน รวมถึงถ้าสร้างประตูไว้ด้านซ้ายมือของบ้าน ก็จะช่วยให้มีโชคลาภเข้ามามากขึ้นด้วย

ประตูหน้าบ้านตรงกับประตูหลังบ้าน ตามความเชื่อกล่าวว่า เจ้าบ้านจะเก็บเงินไม่อยู่ เงินไหลมาก็พร้อมไหลออก จะรื้อบ้านก็ใช่ว่าจะทำได้อย่างใจคิด วิธีแก้ง่ายๆ ก็แค่นำฉากหรือตู้ขนาดใหญ่มาวางกั้นระหว่างประตูหน้าและหลัง บดบังทิศทางเงินไหลออก ได้แต่งบ้านด้วยแถมได้ผลเรื่องฮวงจุ้ยด้วย

สรุปประตูเข้าบ้าน

ประตู หน้าบ้านเปิดรับทรัพย์

  1. ประตูบ้านที่ดีตามหลักฮวงจุ้ย : ควรเปิดในระยะ 45 องศา และต้องไม่มีต้นไม้ใหญ่ เสาไฟฟ้า ป้ายโฆษณาหรือเหลี่ยมมุมตึกทิ่มแทงเข้าสู่ตัวประตูบ้าน ว่ากันว่าการที่ประตูเปิดออกมากไปจะทำให้เงินทองรั่วไหล และถ้ามีสิ่งกีดขวางทางประตูก็จะทำให้เงินทองติดขัด ใช้ชีวิตได้ไม่ราบรื่นค่ะ
  2. ตำแหน่งประตูหน้าบ้าน : ไม่ควรตรงกับประตูหลังบ้าน เชื่อว่าจะทำให้เงินทองรั่วไหล เก็บเงินไม่อยู่ หากประตูทั้งสองบานตรงกัน วิธีแก้ไขให้หาเฟอร์นิเจอร์เช่นตู้หรือโต๊ะคั่นระหว่างกลาง หรือหาฉากกั้นมาบังไม่ให้ตรงกันก็ได้
  • 3. ห้องรับแขก

เนื่องจากเป็นจุดศูนย์รวมของบ้านจึงเปรียบเสมือนห้องเก็บโชคลาภ ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วห้องรับแขกที่ดี ไม่ควรมี ฉากมาตั้งกั้นไว้ตรงประตูทางเข้า นอกจากจะเป็นการสกัดการไหลเวียนของกระแสโชคลาภแล้ว ยังหมายถึงการเก็บเงินไม่อยู่ เกะกะและไม่สวยงามอีกด้วย ส่วนเฟอร์นิเจอร์อย่างเช่นโซฟาหรือชุดรับแขกควรจะวางไปในทิศทางเดียวกันกับตู้โชว์ โดยอาศัยหลักการที่ว่า เจ้าของบ้านขาดธาตุใดหรืออยากเสริมธาตุใด ก็ควรที่จะวางโซฟาไปในทิศทางนั้น ๆ เนื่องจากการจัดวางตู้โชว์และโซฟาเปรียบเสมือนภูเขาที่รับลมจากน้ำซึ่ง เป็นพลังหยิน ที่จะช่วยเสริมบารมีให้แก่เจ้าของบ้านนั่นเอง นอกจากนี้ทิศของห้องรับแขกกับสีสันที่ใช้ก็มีผลในศาสตร์ฮวงจุ้ยเช่นกัน

  1. ทิศตะวันออก : เป็นทิศของการต่อสู้เพื่อครอบครัว ดังนั้นสีของเฟอร์นิเจอร์อย่างโซฟาหรือชุดรับแขก ควรเป็นการผสมผสานสีดำ ฟ้า น้ำเงินคราม ชมพู เขียวและแดง รูปทรงของเฟอร์นิเจอร์ควรเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า จัดให้กลมกลืนกับห้องรับแขก จะช่วยส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองให้กับครอบครัวได้มากขึ้น
  2. ทิศตะวันออกเฉียงใต้ : เป็นทิศของความมั่งคั่งร่ำรวย เนื่องจากพื้นที่ทิศนี้เป็นธาตุไม้ ดังนั้นควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาจากวัสดุไม้มาตกแต่ง และควรใช้โทนสีเขียว ฟ้า ดำ คราม เป็นองค์ประกอบให้เกิดความสมดุลสวยงาม และควรมีโต๊ะกาแฟซึ่งเป็นองค์ประกอบของธาตุไฟ เอาไว้เป็นของตกแต่งฮวงจุ้ยเพื่อสร้างบรรยากาศด้วย
  3. ทิศใต้ : เป็นพื้นที่ของพลังอำนาจ ชื่อเสียง ยศฐาบรรดาศักดิ์และการยอมรับ เนื่องจากเป็นพื้นที่ธาตุไฟ ดังนั้นควรเลือกของตกแต่งฮวงจุ้ยที่มีทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยใช้สีน้ำตาล เขียว ชมพู เป็นหลัก ไฟในห้องรับแขกควรใช้สี Warmlight ให้ดูอบอุ่น หรือใช้พรมสีน้ำตาลในการตกแต่ง ที่สำคัญควรจัดให้ดูโล่ง โปร่งสบาย รับกระแสลมของความมงคลตามการจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย
  4. ทิศตะวันตกเฉียงใต้ : เป็นพื้นที่ของความรัก ความสัมพันธ์ ชีวิตสมรสและครอบครัว ชุดรับแขกและเฟอร์นิเจอร์ควรจัดให้ดูสดใสในสไตล์โมเดิร์น และใช้ไฟในห้องที่มีสี Earth Tone เพื่อให้มีความกระปรี้กระเปร่า และอาจแทรกด้วยของตกแต่งตามหลักฮวงจุ้ย ที่มีสีชมพู เพื่อกระตุ้นความรักและสร้างความสุขในครอบครัว
  5. ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ : เป็นมุมแห่งการอุปถัมภ์ ค้ำชู ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ในมุมนี้ตามหลักจัดบ้านตามฮวงจุ้ย ควรที่จะติดกระจก และเลือกชุดรับแขกหรือของตกแต่งต่าง ๆ ที่มีสีน้ำตาล จะส่งผลดีต่อครอบครัวที่สุด
  6. ทิศตะวันตก : มุมแห่งความหวัง อนาคตและความลับ ดังนั้นในห้องรับแขกจึงควรใช้สีเทาอ่อน และใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีวัสดุมาจากโลหะหรือสแตนเลส แต่เนื่องจากเป็นทิศที่รับความร้อนเป็นอย่างมาก ควรที่จะหาของตกแต่งฮวงจุ้ยอย่างตู้ปลาเอามาตั้งไว้ จะช่วยให้ดูเย็นขึ้น
  7. ทิศเหนือ : เป็นพื้นที่ส่งเสริมในด้านการงานอาชีพ ทิศนี้ควรใช้สีขาวและฟ้า ผสมผสานให้ลงตัว และเสริมด้วยต้นไม้สีเขียวให้ดูสบายตา พร้อมกับใช้ไฟโทนสว่างเย็นอย่างโทนสีขาว ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน
  8. ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ : เป็นมุมแห่งการเรียนรู้ การศึกษา และพัฒนาชีวิต เพราะบริเวณนี้เป็นธาตุดิน ดังนั้นการจัดพื้นที่ในห้องรับแขกควรจัดสไตล์โมเดิร์น โดยใช้สี Warmlight หรือแนว Earth Tone ข้าวของเครื่องใช้ เพราะจะส่งผลดีต่อเรื่องการเรียนการศึกษา และหากมีของตกแต่งฮวงจุ้ยอย่างชั้นวางหนังสือด้วยแล้ว จะยิ่งส่งเสริมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

สรุปทิศฮวงจุ้ยของห้องรับแขก

ตำแหน่งนี้ถือได้ว่ามีอิทธิพลกับการใช้ชีวิต โดยตำแหน่งที่ดีมี 2 ส่วน ส่วนแรกคือบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ เป็นตำแหน่งของความรักและการแต่งงาน ส่วนที่สองคือบริเวณทิศตะวันตก เป็นตำแหน่งของเด็ก ๆ และความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมกับการรวมตัวของคนในครอบครัว

  • 5. ห้องน้ำ ห้องซักล้าง ตู้เสื้อผ้า

ส่วนแรกห้องน้ำ : ถ้าหมั่นรักษาดูแลห้องน้ำสะอาด นอกจากจะทำให้คนในบ้านมีสุขอนามัยที่ดี ลดการเกิดโรคจากสารพัดเชื้อโรคได้แล้ว ทางฮวงจุ้ยยังถือว่าห้องน้ำที่สะอาดอยู่เสมอและมีลักษณะที่ดี กล่าวคือห้องไม่ควรตรงข้ามกับประตูทางเข้า กลางบ้าน ซึ่งถือเป็นตำแหน่งของการเงิน ความรัก และความสัมพันธ์ และ ไม่ตั้งใกล้ห้องครัว ก็จะทำนำพาพลังดี ๆ เข้ามาในบ้าน ที่จะส่งผลทำให้บ้านร่มเย็นเป็นสุข

สำหรับการวางฮวงจุ้ยของห้องน้ำ ไม่ควรตั้งส้วมอยู่กลางบ้าน ตามความเชื่อจะทำให้เกิดความแตกแยกกันในครอบครัว โชคลาภหายไป ไม่สามารถเก็บเงินทองอยู่ได้ และอีกอย่างคือ ห้องน้ำเกิดมลพิษได้ง่าย เมื่ออยู่กลางบ้านก็จะทำให้การระบายอากาศไม่ดี ควรจัดห้องน้ำให้อยู่ทางทิศตะวันออก เพราะถือว่าเป็นทิศทางวางตำแหน่งที่ดี จะทำให้คนภายในบ้านประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ทำให้เรามีสุขภาพจิตที่ดี และไม่ควรจัดวางทางทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้

ส่วนที่สองห้องซักล้าง : ไม่ควรอยู่ตรงกับห้องนอนหรือประตูทางเข้าบ้าน

ส่วนที่สามตู้เสื้อผ้า : ไม่ควรมีตู้เก็บของขนาดใหญ่อยู่ใกล้กับห้องนอน

  • 6. ห้องครัว

ห้องครัวคือแหล่งพลังงานสำคัญของบ้านเลยก็ว่าได้ ซึ่งส่งผลทางด้านสุขภาพ บารมี และเงินทองโชคลาภโดยตรง ดังนั้นวิธีจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ยที่ดีคือ ทิศทางตำแหน่งของเตาไฟในห้องครัว ควรหันออกไปทางทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคล และเลี่ยงการตั้งตำแหน่งเตาให้ตรงกับเครื่องซักผ้าและประตู เนื่องจากตามหลักจัดบ้านตามฮวงจุ้ยแล้ว จะทำให้เงินทองหดหายยากจนลง เพราะเตาไฟในห้องครัวถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มพลังงานบวกลงไปในอาหาร หากรับประทานเข้าไปจะทำให้ชีวิตดีขึ้นนั่นเอง

ห้องครัวเป็นห้องที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพและธาตุไฟ เราไม่ควรสร้างห้องครัวไว้ใกล้กับหน้าบ้านหรือประตูบ้าน โดยตำแหน่งห้องครัวที่ดีที่สุดคือ บริเวณหลังบ้าน และเพื่อไม่ให้ธาตุไฟและธาตุน้ำในครัวตีกัน ควรแยกวางตู้เย็น ซิงค์ และเตาเอาไว้ในมุมต่าง ๆ ของห้อง โดยให้ระดับของห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องทานอาหาร สามารถอยู่ในระนาบเดียวกันได้ แต่ห้ามสร้างห้องครัวติดกับห้องนอนเด็ดขาด เพราะจะทำให้ร้อนและมีสุขภาพไม่ดี อีกทั้งควรระวังอย่าให้มีขื่อพาดอยู่ในห้องครัว เพราะจะนำมาซึ่งความเจ็บป่วยมาให้คนในบ้าน

สำหรับห้องครัวนั้นเปรียบเสมือนความอุดมสมบูรณ์และสุขภาพร่างกายของคนในครอบครัว เพราะฉะนั้นแล้วการวางตำแหน่งห้องครัว ควรจะอยู่ในมุมที่สะอาดหรือทำความสะอาดง่าย ไม่ควรอยู่บริเวณทางเข้าบ้าน เพราะจะถือว่าเป็นการแย่งโชคลาภ สำหรับห้องครัวนั้นควรจัดอยู่ทางทิศใต้หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ และที่สำคัญไม่อยู่ติดห้องน้ำ เหตุผลบอกไปแล้วในข้างต้น

สรุปฮวงจุ้ยของห้องครัว

ตามหลักของฮวงจุ้ยแล้ว การมีห้องครัวที่ดีจะนำมาซึ่งสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีด้วย ซึ่งลักษณะของตำแหน่งที่ไม่ควรทำห้องครัวคือ บริเวณที่ใกล้กับประตูทางเข้าบ้าน ที่จะเห็นเป็นห้องแรกเมื่อเข้ามาในบ้าน ไม่ควรอยู่ใต้ห้องน้ำและหันชนกับห้องน้ำ ไม่ควรอยู่ใกล้บันได แต่จุดที่ดีคือ ใกล้ห้องซักล้างและโรงรถ ทั้งนี้ส่วนของที่จุดเตาไฟ ให้ยึดหลักว่าเมื่อทำอาหารไม่ควรหันหลังให้ประตู

  • 7. วางเตาให้ถูกที่

เตาไฟเป็นเครื่องมือในการเติมพลังงานให้กับมนุษย์ เตาจึงเป็นจุดกำเนิดพลังงานภายในบ้านที่สำคัญและควรวางให้ถูกตำแหน่งตามหลักฮวงจุ้ย โดยหลักการของการวางเตาในบ้านมี 4 ข้อ คือ

  1. ตำแหน่งเตาไม่ควรตรงกับห้องนอน
  2. หน้าเตาไม่ควรตรงกับตำแหน่งเตียงนอน
  3. หน้าเตาไม่ควรตรงกับตำแหน่งตู้เย็นหรือซิงค์ล้างจาน
  4. หัวเตาควรหันไปทางทิศใต้หรือทิศตะวันออก
  • 8. ห้องนอน

ห้องนอนควรจะสงบ ปลอดภัย ไร้เสียงรบกวน และจะให้ดีควรหันหน้าไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นจึงไม่ควรสร้างห้องนอนบนโรงรถ ห้องทำงาน และห้องครัว แต่ควรจะตั้งอยู่เหนือห้องกินข้าวหรือห้องนั่งเล่นแทน ส่วนประตูห้องนอนไม่ควรสร้างตรงกับหน้าต่าง ประตูห้องน้ำ และประตูห้องอื่น ๆ เพราะจะทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ รวมถึงไม่ควรสร้างประตูห้องนอนตรงกับบันไดทางผีผ่าน อีกทั้งหากใครคิดจะสร้างห้องนอนไว้ชั้นล่าง ควรเลือกสร้างในบริเวณที่พื้นที่ข้างบนไม่ตรงกับห้องน้ำ

ห้องนอน คือ ที่พักผ่อนของทุกคนในบ้าน ดังนั้นการวางตำแหน่งเตียงนอน ก็มีส่วนช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมั่นใจได้ถึงโชคลาภและโอกาสที่จะส่งเสริมให้เกิดความก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ โดยทิศทางการวางเตียงนอนก็มีอิทธิพลที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

  1. ทิศเหนือ : ช่วยในเรื่องการพัฒนาการเรียนรู้
  2. ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ : เหมาะกับอาชีพหรือคนที่ทำงานเกี่ยวกับการค้นคว้าทดลอง
  3. ทิศตะวันออก : ช่วยให้การนอนหลับสบาย
  4. ทิศตะวันออกเฉียงใต้ : ช่วยในเรื่องการมีความเพียรพยายามในการทำงาน
  5. ทิศใต้ : ช่วยส่งเสริมให้มีชื่อเสียง เกียรติยศ
  6. ทิศตะวันตก : ช่วยให้มีลูกที่ดี
  7. ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ : ช่วยส่งเสริมให้มีบริวาร เพื่อนฝูงมากมาย

หลักการในการวางเตียงนอนในบ้านตามหลักฮวงจุ้ย

หลักการในการวางเตียงนอนในบ้าน ประกอบไปด้วยอะไร

ฮวงจุ้ยห้องนอนเป็นเรื่องสำคัญมาก ด้วยความที่ห้องนอนเป็นที่พักผ่อนหลับนอน หากจัดวางเตียงนอนหรือทิศทางของห้องนอนไม่ถูกต้อง จะส่งผลเสียกับสุขภาพเราโดยตรง มาดูกันดีกว่าว่าหลักการวางเตียงที่ดี มีอะไรบ้าง

  • a. ห้องนอนห้ามอยู่ตรงกับห้องน้ำหรือบันได : ด้านความเชื่อห้องน้ำมีพลังงานด้านลบ หากอยู่ตรงกับห้องนอนจะพบแต่สิ่งไม่ดี และอยู่ตรงกับบันไดเชื่อว่าทำให้เงินทองรั่วไหล ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นการรบกวนการนอน ทั้งในเรื่องกลิ่นของห้องน้ำและคนรบกวน
  • b. ไม่ควรวางเตียงนอนกลางห้องนอน : ตำแหน่งเตียงที่ดีควรอยู่ชิดกับผนัง และควรเว้นที่ว่างสองข้างให้เท่ากัน เพื่อความสมดุล
  • c. ไม่ควรวางเตียงนอนกลางประตูห้องนอนโดยตรง : จะทำให้ถูกรบกวนได้ง่าย
  • d. หัวเตียงควรหันเข้าหากำแพงโดยตรง : ไม่ควรตั้งลอย ๆ กลางห้อง หรือชนกับหน้าต่าง เพราะเวลาที่เราหลับพลังงานจะอ่อนแอ ผนังที่แข็งแรงจะช่วยป้องกันและส่งเสริมพลังให้แก่เราได้
  • e. หัวเตียงไม่ควรผิงผนังด้านที่ติดประตูห้องนอนหรือห้องน้ำ : เชื่อว่าจะรับเอาพลังงานที่ไม่ดีเข้ามาสู่ตัว
  • f. หัวเตียงไม่ควรผิงผนังด้านที่ติดหน้าต่าง : ด้านความเชื่อจะทำให้รับพลังงานด้านลบจากด้านนอกเข้ามา ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้หาผ้าม่านหน้าต่างดี ๆ มาติดตั้ง ส่วนการใช้งานจริงจะทำให้นอนหลับไม่สบายเอาได้

นอกจากเตียงนอนและทิศทางการวาง ที่จะส่งเสริมในเรื่องต่าง ๆ แล้ว ทิศทางของโต๊ะทำงานในห้องนอน ก็มีส่วนช่วยเสริมดวง ตามหลักการจัดบ้านตามฮวงจุ้ยอีกด้วย เพราะทิศทางการวางโต๊ะทำงาน จะส่งผลให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานนั่นเอง โดยทิศทางการวางแบ่งได้ตามธาตุของบุคคลนั้น ๆ ดังนี้

  • ธาตุไม้ : ควรนั่งหันหน้าไปยังทางทิศตะวันออก
  • ธาตุไฟ : ควรนั่งหันหน้าไปยังทิศใต้
  • ธาตุดิน : ควรนั่งหันหน้าไปยังทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หรือ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ธาตุทอง : ควรนั่งหันหน้าไปยังทิศตะวันตก

สรุปฮวงจุ้ยของห้องนอน

ห้องนอนเป็นส่วนที่สำคัญมากในบ้าน เพราะห้องนอนต้องการพลังที่สงบ เพื่อสนับสนุนการนอนและ ส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเพศ ตำแหน่งที่ดีของห้องนอนควรอยู่ในพื้นที่ ที่สงบหรือมีความสมบูรณ์ของกิจกรรม เช่น การอยู่เหนือบริเวณที่อ่านหนังสือ เหนือห้องรับประทานอาหาร หรืออาจจะเป็นบริเวณข้างหลังบ้าน เพื่อไม่ให้มีพลังของการจราจร ที่เป็นความสับสนวุ่นวายเข้ามา และอีกตำแหน่งที่ไม่ดีคือ เหนือโรงครัวและออฟฟิศ อีกทั้งในห้องนอนไม่ควรมีหน้าต่างบานใหญ่ ที่ตรงกับประตูห้องนอน และเตียงไม่ควรอยู่ใต้หน้าต่าง แต่หัวเตียงควรพิงกับผนัง

  • 9. ประตูกับหน้าต่าง

เนื่องจากลมสามารถเข้า – ออกบ้านได้ทางประตูและหน้าต่าง พลังงานที่ดีก็เช่นเดียวกัน ฉะนั้นเราควรจัดสมดุลของการติดตั้งประตูและหน้าต่างให้ดี โดยประตูแต่ละห้องไม่ควรอยู่ใกล้ชิดกันเกินไป ส่วนหน้าต่างก็ควรให้อยู่ในระดับกึ่งกลางของผนังบ้านไม่สูงและไม่ต่ำจนเกือบชิดพื้น เพื่อรักษาพลังชี่ (Chi) เอาไว้ ส่วนหลังบ้านจะต้องไม่มีประตูและหน้าต่างเยอะเกินความจำเป็นเพราะจะทำให้พลังงานชี่อ่อนตัวลง

ที่ติดตั้งประตูและหน้าต่างก็มีส่วนสำคัญทั้งสิ้น โดยเป็นช่องทางของแสงและพลังงานที่จะไหวเวียนเข้าออกผ่านทางประตู ดังนั้นหน้าต่างและประตูทุกจุด ทุกบานจะมีความสัมพันธ์กัน ซึ่งหลักๆแล้วหน้าต่างทุกบานไม่ควรอยู่ใกล้กันจนเกินไป

เมื่อเปิดหน้าต่างออกมาแล้ว บานประตูแต่ละบานต้องไม่ชนกัน และควรมีพื้นที่รอบ ๆ เป็นของตัวเอง จุดที่ควรระวังเลยคือ อย่าให้บานหน้าต่างตรงกับประตูทางเข้าบ้าน หรือหน้าต่างบานสูงใหญ่ อีกทั้งการมีหน้าต่างในบ้านหลายบาน จะทำให้พลังงานในบ้านยิ่งอ่อนแอลง

  • 10. บันได

บันไดบ้านที่ดีควรอยู่ชิดติดด้านใดด้านหนึ่งของตัวบ้าน เพราะจะช่วยเสริมเรื่องโชคลาภให้ดีขึ้น พยายามหลีกเลี่ยงการสร้างห้องน้ำไว้ใต้บันไดบ้าน รวมถึงควรสร้างขั้นบันไดให้มีจำนวนเป็นเลขคี่ เพราะในจีนเลขคี่สื่อถึงคนเป็น (เลขคู่สื่อถึงคนตาย) และที่สำคัญห้ามให้บันไดอยู่ตรงกับประตูเข้าบ้าน เพราะจะเปรียบเหมือนการเปิดรับพลังไม่ดีให้ขึ้นบันไดไปสู่ห้องนอนในชั้นด้านบนได้ง่าย อีกทั้งยังอาจนำมาซึ่งปัญหาการเงินด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น แต่เรายังไม่ควรสร้างบันไดไว้กลางบ้านด้วย เพราะจริง ๆ แล้วพื้นที่บริเวณกลางบ้านควรเป็นที่ว่าง และยังเชื่อกันว่าหากวางบันไดไว้กลางบ้านอาจทำให้ผู้อยู่อาศัยมีปัญหาเกี่ยวโรคหัวใจได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าบันไดที่สร้างไว้กลางบ้านเป็นบันไดวน อาจนำไปสู่ชีวิตที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เพราะบันไดวนเปรียบเหมือนการที่พลังงานหมุนวนอยู่กับที่ไม่ถ่ายเทไปจุดอื่นนั่นเอง

นอกจากนี้สำหรับคนไทยเราแล้วควรหลีกเลี่ยงการทำบันไดที่มีทางขึ้นสองฝั่ง เพราะจะไปคล้ายกับเมรุเผาศพ ซึ่งถือเป็นอัปมงคลมาก ๆ แล้วก็ไม่ควรสร้างบันไดไว้บริเวณนอกบ้านด้วย

สรุปฮวงจุ้ยของบันได

บันใดเป็นอีกองค์ประกอบหนึ่งของบ้าน ที่ต้องให้ความสำคัญ ซึ่งมี 3 ตำแหน่งหลัก ๆ ที่ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ไม่ดี

  1. ส่วนแรก คือ บริเวณกลางบ้านหรือสำนักงาน เพราะพลังงานบริเวณกึ่งกลางบ้านเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งถือเป็นหัวใจของบ้าน การทำบันใดตรงตำแหน่งนี้จะทำให้มีพลังงานขึ้นลงมาขัดขวาง
  2. ส่วนที่สอง คือ ตำแหน่งถัดจากประตูเข้าบ้าน เพราะขัดขวางพลังซี่ ทำให้เกิดความเร่งรีบ ทำอะไรไม่สำเร็จ ไม่มีความมั่นคง และ
  3. ส่วนที่สาม คือ ทางด้านทิศตะวันออกที่เป็นตำแหน่งของสุขภาพ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่เป็นตำแหน่งของความรัก และทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่เป็นตำแหน่งของเงินทอง
บันได แข็งแรง มั่นคงนำ
  • บันไดที่ดีตามหลักฮวงจุ้ย : ไม่ควรมีตำแหน่งที่กลางบ้าน เชื่อว่าจะทำให้เจ้าบ้านอยู่ไม่ติดบ้าน ไม่ควรมีทางขึ้น-ลงสองฝั่ง ดูคล้ายเมรุเป็นสิ่งไม่ดี และบันไดต้องลงด้วยเลขคี่ บันไดถือว่าเป็นตัวเชื่อมโยงพลังงานดีระหว่างตัวบ้านในแต่ละชั้น ควรให้ความสำคัญไม่แพ้สิ่งอื่นเลย
  • บันไดต้องเหยียบได้เต็มฝ่าเท้า : ความชันของบันไดจะต้องอยู่ที่ประมาณ 45 องศา และใช้วัสดุที่มีความแข็งแรง เพราะบ่งบอกว่าบ้านนั้นมีความแข็งแรงมั่นคง เดินสะดวกและไม่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุด้วย
  • 11. ฝ้าเพดานสูงๆ

เนื่องจากฝ้าเพดานยิ่งสูงยิ่งทำให้มีเนื้ออากาศเข้ามามาก เกิดความเย็นสบาย ปลอดโปร่ง โดยเฉพาะบ้านชั้นเดียวฝ้าเพดานสูงๆ เป็นเรื่องจำเป็นมาก ไม่เช่นนั้นบ้านจะร้อนมาก เพราะหลังคาจะต้องอมความร้อนอยู่ตลอดทั้งวัน สำหรับความสูงควรสูงเท่าไรจึงเหมาะสม ขอตอบว่ายิ่งสูงยิ่งดี หรืออย่างน้อยควรมากกว่า 2.7 เมตร

  • 12. ของแต่งบ้านฮวงจุ้ย

การเลือกของตกแต่งบ้านฮวงจุ้ย เข้ามาอยู่ในบ้าน จะช่วยเสริมในเรื่องต่าง ๆ ให้กับชีวิตของคนในครอบครัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยเรือสำเภาและเรือรูปทรงอื่น ๆ เพราะเรือสำเภาเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและการเดินทาง ดังนั้นการจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ยนี้ จะช่วยให้มีโอกาสเดินทางและมีเงินทองมั่งคั่งสมบูรณ์

โดยตำแหน่งที่ดีในการตั้งก็คือ ห้องรับแขก โดยหันหัวเรือเข้าในบ้านและบนเรือควรประดับตกแต่งด้วยเงินตราของจีน เงินไทย เพชรพลอย เปรียบเสมือนเรือได้นำแก้วแหวน เงินทองมาให้เรา

  • 13. จัดวางสิ่งของในบ้าน เสริมดวงตามหลักฮวงจุ้ย

  • ทิศเหนือ : เป็นทิศธาตุน้ำ ควรตกแต่งด้วยน้ำพุหรือวัตถุทรงโค้ง ทรงกลม วาว รูปคลื่น หรือใช้สีฟ้า น้ำเงิน เทา ดำ ขาว เงิน ทอง
    และ ห้ามใช้สี เหลือง ส้ม ครีม น้ำตาล โอลด์โรส ตกแต่งบ้านเด็ดขาด
  • ทิศใต้ : เป็นทิศธาตุไฟ ควรประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ ต้นไม้ หรือวัตถุทรงสูง ทรงกระบอก ทรงพีระมิด หรือใช้สีแดง ชมพู เขียว และ ห้ามใช้ฟ้า น้ำเงิน เทา ดำ ตกแต่งบ้านเด็ดขาด
  • ทิศตะวันออก และตะวันออกเฉียงใต้ : เป็นทิศธาตุไม้ ควรตกแต่งด้วยต้นไม้ น้ำพุ หรือวัตถุทรงสูง รูปทรงคลื่น หรือใช้สีเขียว ฟ้า น้ำเงิน เทา ดำ และ ห้ามใช้สีเงิน ทอง โลหะ ต่าง ๆ ตกแต่งบ้านในทิศนี้เด็ดขาด
  • ทิศตะวันตก และตะวันตกเฉียงเหนือ : เป็นทิศธาตุทอง ควรตกแต่งด้วยโลหะทรงกลม แวววาว เซรามิค เครื่องปั้นดินเผา หรือสีเงิน ทอง น้ำตาล ครีม เหลือง ส้ม โอลด์โรส ห้ามใช้สีแดง ชมพู ตกแต่งบ้านในทิศทางนี้โดยเด็ดขาด
  • ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียงใต้ : เป็นทิศธาตุดิน ควรตกแต่งด้วย เซรามิค เครื่องปั้นดินเผา หรือสีเหลือง ส้ม ครีม น้ำตาล โอลด์โรส แดง ชมพู ห้ามใช้สีเขียว ตกแต่งบ้านในทิศทางนี้โดยเด็ดขาด
  • 14. ปรับเฟอร์นิเจอร์เสริมมิตร

ปรับเฟอร์นิเจอร์ออกห่างจากกำแพง : ควรจะจัดให้ล้อมวง หรือชิดกันเพื่อง่ายต่อการพูดคุยกัน ไม่ควรจัดชิดผนังทั้งหมดเพราะจะทำให้คนในบ้านรู้สึกอึดอัด ทั้งเรื่องความเชื่อและการใช้งานจริง ซึ่งการจัดที่นั่งให้ล้อมวงเข้าไว้ทำให้ความสัมพันธ์ภายในบ้านดีขึ้นด้วย

  • 15. จัดบ้านให้สะอาดอยู่เสมอ

พื้นฐานที่สำคัญของบ้านคือต้องจัดให้สะอาดอยู่เสมอ นอกจากนั้นอยากทำให้บ้านน่าอยู่ขึ้น ให้ลองเพิ่มต้นไม้หรือดอกไม้เข้าไปเพิ่ม ปรับพื้นที่ให้อากาศถ่ายเทสะดวก ตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าไม้ดอกเป็นสิ่งดีจะนำรางวัลมาให้ หรือนำน้ำพุมาตกแต่งบ้าน เพราะน้ำพุถือว่าเป็นตัวแทนของความมั่งคั่งในหลักของฮวงจุ้ย ซึ่งช่วยสร้างพลังและความเจริญรุ่งเรือง ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของเงินทอง

การจัดบ้านตามหลักฮวงจุ้ย เป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคล แต่ก็สามารถหยิบหลักการบางอย่าง มาปรับใช้กับตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งในบ้านของเราได้ โดยเฉพาะของแต่งบ้านฮวงจุ้ยต่าง ๆ เพราะจัดบ้านตามฮวงจุ้ยแต่ละครั้ง ก็มีเรื่องของงบประมาณเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ ดังนั้นต้องคำนวณให้รอบคอบและตัดสินใจร่วมกันกับสมาชิกในบ้าน เพื่อความสุขของทุกคนในครอบครัว

  • 16. ของที่ไม่ดีออกจากตัวบ้าน

ใครที่ชอบเก็บของเก่าของเสียไม่ยอมทิ้ง บอกเลยว่าต้องตัดใจ เชื่อกันว่าของที่ชำรุด ขยะ อาวุธ ภาพวาดที่รุนแรง ล้วนเป็นสิ่งไม่ดีที่ส่งผลต่อผู้อยู่อาศัย การนำของที่ไม่ดีออกจากบ้านเปรียบเสมือนการนำพลังงานที่ไม่ดีออกไปด้วย ช่วยให้บ้านสะอาด เพิ่มพลังงานบวกได้เยอะด้วยนะ

  • 17. หาตำแหน่งทรัพย์ของบ้าน

ตำแหน่งทรัพย์ หรือ ‘ไฉ่อุ่ย’ คือตำแหน่งสำหรับการกระตุ้นทรัพย์โดยเฉพาะ เหมาะสำหรับการวางตู้เซฟ โต๊ะเก็บเงิน โต๊ะบัญชี เพื่อให้ทรัพย์ไหลมาเทมาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับบ้านที่ประตูทางเข้าบ้านเปิดด้านขวามือ ตำแหน่งทรัพย์จะอยู่ที่มุมซ้ายของบ้าน ส่วนบ้านที่ประตูทางเข้าบ้านเปิดด้านซ้ายมือ ตำแหน่งทรัพย์จะอยู่ที่มุมขวาของบ้าน และบ้านที่ประตูทางเข้าบ้านเปิดออกที่สู่ตรงกลาง ตำแหน่งทรัพย์จะอยู่ที่ทั้งมุมซ้ายและมุมขวาของบ้าน

  • 18. อย่าทำให้บ้านรก

บ้านที่รกรุงรังนอกจากจะไม่น่าอยู่อาศัยแล้ว ยังจะทำให้การไหลเวียนของพลังงานภายในบ้านไม่ดีอีกด้วย ซึ่งจะไปลดทอนพลังงานของผู้อยู่อาศัยด้วยอีกทางหนึ่ง คุณควรหมั่นจัดบ้านอยู่เสมอ เพราะบ้านที่สะอาดนอกจากจะช่วยเสริมพลังแล้ว ยังช่วยให้สุขอนามัยในบ้านดีขึ้นอีกด้วย

ข้อห้ามในการจัดฮวงจุ้ยบ้าน

1. หากมีสตรีกำลังตั้งท้อง ไม่ควรสร้างบ้าน เพราะอาจนำมาสู่การแท้งได้

2. ไม่ควรสร้างบ้านสูงกว่าอาคารบริเวณรอบ ๆ และอย่าสร้างชิดตึกเหล่านั้นเกินไปด้วย

3. ไม่ควรสร้างบ้านหลังต้นไม้ใหญ่หรือต้นไม้ที่ตายแล้ว เพราะจะนำความโชคร้ายมาสู่บ้าน

4. ไม่ควรสร้างบ้านบนพื้นที่ที่ด้านหน้าบ้านต่ำ หลังบ้านสูง เพราะฮวงจุ้ยเชื่อว่าจะทะเลาะกับเพื่อนบ้านได้

5. บ้านที่อยู่รวมกัน ห้ามสร้างศาลาชนกัน

6. ตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าการสร้างบ้านที่ยื่นหรือเว้าแหว่งจะมีอันเป็นไป

7. หน้าบ้านไม่ควรมีบ่อน้ำสองบ่อ ถือเป็นบ่อน้ำตา

8. ถ้ามีคนอยู่อาศัยน้อย ไม่ควรสร้างบ้านหลังใหญ่เกินไป

9. การเจาะหลังคาถือว่าไม่เป็นมงคล หากอยากได้แสงสว่างแนะนำให้ใช้กระเบื้องใสแทน

ลักษณะฮวงจุ้ยบ้าน 10 ประการ ที่บั่นทอนโชคลาภ ควรหลีกเลี่ยง

ฮวงจุ้ยบ้านที่ไม่ดี

ฮวงจุ้ยบ้าน ประเภทใดที่อยู่แล้วขาดความเจริญยิ่งอยู่ยิ่งยากจน ยิ่งเงินทองสูญหาย ยิ่งนำพาปัญหาและอุปสรรคมาสู่คนในบ้าน ซึ่งท่านผู้อ่านควรรู้เอาไว้เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้บ้านหรือร้านค้าของท่าน

  • 1. บ้านที่ขาดการถ่ายเทอากาศ ปิดทึบ ประตู หน้าต่างมีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับขนาดของบ้าน

บ้านที่ดีควรมีพลังงานหมุนเวียนถ่ายเท หรือที่เรียกว่าพลังชี่ มีการหมุนเวียนได้ดีทั่วบ้าน หากบ้านใดที่ปิดทึบตลอดเวลา หรือห้องใดที่มีแสงสว่างจากภายนอกเข้ามาน้อยมาก บ้านนั้นจะขาดพลังชีวิตที่ดี

หากมองในแง่วิทยาศาสตร์แล้ว บ้านที่การถ่ายเทอากาศได้ไม่ดีก็เป็นจุดเริ่มต้นของการสะสมเชื้อโรคให้เจริญเติบโต คนในบ้านเจ็บป่วยได้ง่าย แก้ไขได้ด้วยการ หมั่นถ่ายเทอากาศสม่ำเสมอ หรือให้มีพลังชีวิตของคนมากระตุ้นได้โดยพาเพื่อนมาจัดเลี้ยง สังสรรค์ หรือพาเด็กๆมาวิ่งเล่นเสมอๆ จะเป็นการใช้คนภายนอกนำมาพลังเข้ามาในบ้าน เป็นการกระตุ้นพลังชีวิตของบ้านได้เช่นกัน

  • 2. บ้านที่มีของรกรุงรัง ปิดทางเข้าของบ้าน ขวางหน้าบ้าน

บ้านที่ด้านหน้ามีสิ่งของปิดไม่ให้พลังเข้าบ้าน เป็นการทำให้กระแสที่ดีเข้าสู่ตัวบ้านได้ยากและลำบาก บ้านที่ข้างในบ้านมีของรกรุงรังก็เช่นกัน ส่งผลให้กระแสภายในบ้านไหลเวียนไม่สะดวก ฮวงจุ้ยบ้านแบบนี้ โชคลาภไม่ทำงานเพราะติดขัดตลอดเวลา ควรหมั่นเก็บกวาดบ้าน และสิ่งของที่ไม่ได้ใช้แล้วควรนำไปทิ้งเสมอๆ

  • 3. บ้านที่อยู่สูง หรือ ต่ำกว่าถนนมาก

บ้านที่สร้างใหม่ มักจะมีการถมที่เผื่อน้ำท่วมไว้สูงมาก จะส่งผลให้โชคลาภในบ้านไหลออกภายนอกหมด สังเกตุได้ง่ายๆ หลังจากย้ายเข้าบ้านที่สร้างสูงกว่าถนนไว้มากๆ บ้านนั้นจะขาดโชคลาภ และเงินทองจะเก็บไม่ค่อยอยู่ตลอด หรือมีเรื่องให้สูญเสียทรัพย์สินเป็นประจำ

ส่วนบ้านที่อยู่ต่ำกว่าถนนมากเกินไป ก็จะเป็นบ่อพักพลังงานทุกอย่าง พลังไหลเข้าบ้านได้ แต่ออกไม่ได้ ซึ่งเข้าข่ายไม่มีการถ่ายเททีดี

ดังนั้นบ้านที่ดี ไม่ควรอยู่สูงกว่าพื้นถนนเกินครึ่งฟุต หรือต่ำกว่าครึ่งฟุต อย่างนี้ถือว่าไม่ต่ำหรือสูงมาก จะช่วยให้พลังงานไหลเวียนถ่ายเทได้ดี และควรออกแบบให้เป็นลักษณะเหมือนแอ่งตื้นๆ เพื่อเก็บพลังงานไว้ได้ และถ่ายเทได้เช่นกัน

ถ้าบ้านที่สูงกว่าถนน บริเวณหน้าบ้านที่ลาดออกถนน ควรมีจุดกั้นพลังงานก่อนไหลออกจากบ้านสูงกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อกั้นไม่ให้โชคลาภไหลออกได้ง่ายเกินไป

  • 4. บ้านที่มีหน้าต่าง หรือ ประตูมากเกินไป

บ้านที่ดูโปร่ง โล่งสบายเกินไป จะไม่สามารถเก็บพลังไว้ได้ โชคลาภมักจะมาแล้วหายไป เก็บกักไว้ไม่อยู่ ดังนั้นควรแก้ไขด้วยการตรวจหาทิศที่ดีประจำบ้าน และประจำปี ทิศดีให้เปิดรับพลังงาน ที่ร้ายให้ปิดเอาไว้อย่าให้มีการไหลเวียนเข้าบ้าน

  • 5. ประตู หรือ หน้าต่างตรงกันจากหน้าบ้านไปสู่หลังบ้าน

บ้านที่ประตู หน้าต่างทะลุถึงกันก็เป็นอีกรูปแบบที่เงินเข้ามาแล้วออกไป แก้ไขได้โดยหาฉากมากั้น หรือใช้เฟอร์นิเจอร์มาปิดระหว่างหน้าต่างหรือประตูที่ตรงกัน หากห้องนอนที่อยู่ตรงข้ามกันแล้วประตูตรงกัน ถ้าดวงคนในห้องทั้งสองชงกัน ก็จะส่งผลให้มีปากเสียงกันง่ายขึ้น แต่หากเป็นชายหญิงระวังเรื่องชู้สาว หากดวงเข้ากันได้ ความสัมพันธ์จะยิ่งดีขึ้น

  • 6. บ้านที่มีรั้วแบบโปร่ง และ ไม่มีจุดเก็บพลังงานรอบบ้าน

รั้วฝั่งด้านหน้าควรเปิดโล่ง ส่วนด้านอื่นควรปิดทึบ หากโล่งเกินไป ควรหาต้นไม้มาปูลกเป็นแนวแทนก็ได้เช่นกัน

  • 7. บ้านที่บันได หันไปทางหน้าบ้าน และ ตรงกับประตูบ้าน

กระแสจะไหลออกหน้าบ้าน มีเรื่องต้องสูญเสียเงินทองเสมอ ควรหาเฟอร์นิเจอร์มันกั้น หรือฉากมาปิดไว้ สามารถใช้น้ำพุ หรือตู้ปลาช่วยได้

  • 8. สภาพแวดล้อมที่ขาดพลังชีวิตที่ดี รกร้าง อึมครึม ต้นไม้เหี่ยวเฉา

หากบ้านใดที่ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดูรกร้างว่างเปล่า ต้นไม้สูงใหญ่ดูอึมครึมน่ากลัว หรือต้นไม้ไม่เจริญเติบโตงอกงาม หมายถึงสภาพแวดล้อมบริเวณนั้นขาดพลังชีวิตที่ดี บ้านที่ตั้งอยู่ตรงนั้นก็จะขาดพลังชีวิตตามไปด้วย อยู่แล้วไม่เจริญรุ่งเรือง และมีโอกาสเสียชีวิตแบบผิดปกติ แก้ไขโดยพยายามวัดบริเวณบ้านให้น่าอยู่ ร่มรื่น เพื่อช่วยสร้างพลังชีวิตขึ้นมาใหม่

  • 9. สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยขยะ น้ำเสียเน่าเหม็น สกปรก อับชื้น

สภาพแวดล้อมเช่นนี้ จะส่งผลให้มีแต่เรื่องเสียหาย เรื่องที่ไม่ดีเข้าสู่คนในบ้าน ระวังมีปัญหาชู้สาว เจ็บป่วย หน้าที่การงานถูกกลั่นแกล้งจากอำนาจมืด สิ่งผิดกฎหมาย แม้มีโชคลาภก็นำมาซึ่งความวุ่นวาย เสียหายต่อชื่อเสียง และชีวิตตามมาเสมอๆ

  • 10. บ้านที่อยู่ติดรถไฟฟ้าเกินไป ใต้ทางด่วน สะพาน ทางยกระดับ หรือติดกับสิ่งปลูกสร้างที่สูง และขนาดใหญ่มากเกินไปไม่ดี

ตัวอย่างนี้เห็นได้บ่อยในตัวเมือง และสังเกตุได้ง่ายๆตามรถไฟฟ้าในเมือง บ้านที่มีลักษณะแบบนี้จะไม่สามารถดึงพลังเข้าสู่ตัวบ้านได้ เนื่องจากสิ่งปลูกสร้างด้านหน้าไม่อำนวย ไม่เหมาะทำการค้า หรืออยู่อาศัย

อีกทั้งการที่มีรถวิ่งผ่านใกล้ตัวบ้านมากเกินไป ส่งผลต่อคนในบ้านมีเรื่องวุ่นวายใจ คิดมาก จิตใจเป็นกังวล หดหู่ได้ง่าย สามารถแก้ไขได้โดยต้องใช้แสงไฟ ส่องสว่าง มาตกแต่งให้โดดเด่นมากเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มพลังชีวิต

ถ้าสามารถใช้งานพื้นที่ชั้นบนที่อยู่เหนือสะพาน หรือถนนได้จะดีกว่า หรือให้ถอยร่นออกมาจากถนนให้มีช่องว่างให้มากขึ้น บางที่เคยเห็นใช้น้ำพุ น้ำตก ก็ช่วยให้มีการไหลเวียนพลังงานส่วนนั้นได้เช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม 12 ฮวงจุ้ยบ้านไม่ดี ลักษณะแบบนี้ไม่ควรอยู่

สรุป

การปรับปรุงบ้านให้เหมาะสมกับหลักฮวงจุ้ย นอกจะให้ผลทางใจในฐานะของการเพิ่มพลังให้กับผู้อยู่อาศัย การปรับฮวงจุ้ยบ้านยังมีผลต่อภูมิทัศน์และคุณลักษณะภายในบ้านไปด้วยอีกทางหนึ่ง ถ้าหากท่านสามารถทำการปรับฮวงจุ้ยบ้านอย่างง่ายได้ ผลลัพธ์ที่ได้คือการอยู่อาศัยดียิ่งขึ้นไปกว่าเดิม

บ้านจะน่าอยู่หรือไม่นั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัย ว่าจะมีการออกแบบหรือดูแลอย่างไร ดังนั้นการที่บ้านจะน่าอยู่หรือช่วยเสริมดวงคนในบ้านนั้น ควรสร้างให้ถูกต้องตามหลัก ฮวงจุ้ยสร้างบ้าน ให้มากที่สุด เพราะหลักฮวงจุ้ย คือหลักเกณฑ์ที่จะช่วยให้คุณสามารถสร้างบ้านและออกแบบบ้านได้น่าอยู่ ดังนั้นจะสร้างบ้านให้น่าอยู่ ช่วยเสริมดวงผู้อยู่อาศัย ก็อย่าลืมสร้างให้ถูกหลักฮวงจุ้ยเพื่อความความสุขของตัวคุณนั่นเอง

งานบริการยอดนิยมจาก บริษัทTAMPBUILDER ออกแบบ เขียนแบบ ถอดแบบ รับเหมาก่อสร้างบ้านและอาคาร ครบวงจร

หาผู้รับเหมา หาช่างก่อสร้าง รับออกแบบบ้าน รับเขียนแบบบ้าน รับทำ BOQ ถอดแบบประมาณราคา รับตรวจบ้าน คอนโด รับสร้างบ้าน รับเหมาก่อสร้าง รับต่อเติมบ้าน รับรีโนเวทบ้าน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!